จากกรณีที่มีไฟปะทุขึ้นจากใต้พื้นดินบนที่ดินว่างเปล่าที่กำลังก่อสร้างโกดังสินค้าภายในซอยไทยประกัน ซอย 3 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม พร้อมกองสาธารณะสุข อบต.บางเสาธง ได้เดินทางลงพื้นที่เก็บตัวอย่างตรวจสอบ ก่อนจะนำรถแบคโฮตักดินมาเทกลบไว้ก่อนเพื่อให้ความร้อนกระจายหายไป จากนั้นจึงเข้าตักดินบริเวณดังกล่าวไปทำลายอย่างถูกต้อง
จากกรณีที่มีไฟปะทุขึ้นจากใต้พื้นดินบนที่ดินว่างเปล่าที่กำลังก่อสร้างโกดังสินค้าภายในซอยไทยประกัน ซอย 3 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นคาดว่ามาจากผู้รับเหมามักง่ายลักลอบเอาสารเคมีบางชนิดมาฝั่งกลบไว้ จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้และปะทุอย่างรุนแรง ซึ่งสารเคมีดังกล่าวไม่สามารถใช้น้ำหรือเคมีโฟมฉีดดับไฟได้ หากฉีดน้ำเข้าไปยิ่งมีการปะทุรุนแรงมากยิ่งขึ้น ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา>ชาวพุทธ+ทพ.48 ร่วมทอดผ้าป่า
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยกองสาธารณะสุข อบต.บางเสาธง ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ หลังตรวจสอบโดยละเอียด แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด แต่ยืนยันว่าเป็นสารเคมีที่มีอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ทางด้านผู้อำนวยการกองสาธารณสุข อบต.บางเสาธงได้ ประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษและมีการพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์โดย ก็ได้เพียงแค่คำแนะนำว่าห้ามใช้น้ำฉีดเด็ดขาดและให้รอความร้อนลดลงก่อน จะนำเอาดินมาเทกลบเพื่อปิดไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปเติมในชั้นใต้ดินป้องกันไม่ให้เปลวไฟเกิดการปะทุขึ้นมาอีก เจ้าหน้าที่จึงนำรถแบคโฮตักดินมาเทกลบไว้ก่อนเพื่อให้ความร้อนกระจายหายไป จากนั้นจึงเข้าตักดินบริเวณดังกล่าวไปทำลายอย่างถูกต้อง
จากการพูดสอบถามเจ้าของที่ดินแห่งนี้ ทราบว่า เดิมทีเคยเป็นที่ดินว่างเปล่าและมีผู้รับเหมาในพื้นที่บางรายลักลอบนำเอาเศษหินเศษปูนมาเททิ้งซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรหากเป็นเศษดินเศษปูนจะได้ถมที่ไปในตัว แต่ยืนยันไม่ทราบว่ามีการแอบเอาสารเคมีมาเทกลบในที่ดินของตนเองจนกระทั่งจะเข้ามาก่อสร้างโกดังโรงงานจึงมาเกิดเรื่องดังกล่าว
ขณะที่มีรายงานว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่พอจะรู้ตัวผู้รับเหมามักง่ายรายนี้แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและเรียกตัวมาสอบสวน หากพบว่ามีการลักลอบนำสารเคมีมาทิ้งจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ส่วนผลกระทบด้านกลิ่นนั้น จากการที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจโดยรอบในรัศมี 500 เมตร พบว่ายังไม่ได้รับผลกระทบสำหรับชุมชนดังกล่าว มีเพียงร้านค้าและผู้ประกอบการใกล้จุดเกิดเหตุที่ได้รับผลกระทบทางกลิ่นเท่านั้นซึ่งส่วนใหญ่สวมหน้ากากไว้อยู่แล้วจึงบรรเทากลิ่นลงไปได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงสำรวจและประชาสัมพันธ์หากมีท่านใดได้รับผลกระทบขอให้รีบแจ้งทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: