นครพนม – “สู่สุคตินะลูก” คำพูดสุดท้ายจากหัวอกแม่ พ่อไม่กล้ามองศพแอบร่ำไห้ ทหารฝ่ายความมั่นคงร่วมวางดอกไม้จันทน์ ส่งวิญญาณเหยื่อคอมแบทโหด
ขณะจะนำศพออกบ้านนายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี ผู้เป็นพ่อไม่สามารถทนเห็นภาพนำศพลูกชายออกไปเผาได้ จึงเดินไปยืนร้องไห้อยู่หลังบ้าน ญาติต้องคอยประคองตลอดเวลา เพราะนายนิวัฒน์ป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วอยู่ก่อนแล้ว ส่วนนางป่าน ซ้ายซา อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่นั่งรออยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่พอทหารหามโลงศพลูกชายออกมาเท่านั้น ก็ปล่อยโฮร่ำไห้ทันที พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไปสู่สุคตินะลูก” จากนั้นก็ยกโลงศพใส่รถปิกอัพไปยังเมรุ โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ คอยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และแจกแอลกอฮอล์ล้างมือ ก่อนจะเข้าไปภายในบริเวณศาลาอเนประสงค์
ครั้นศพของนายยุทธนาหรือด่อนถึงหน้าเมรุ ก็มี พลตรีประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29(มทบ.29) พ.อ.(พิเศษ)บุญสิน พาดกลาง รอง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (เป็นผู้แทน พลตรี สวราชย์ แสงผล ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 ที่ติดภารกิจด้านอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน) ตลอดจนทหาร ตำรวจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) มาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดย ผบ.มทบ.29 กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ผมมาส่งดวงวิญญาณน้องให้ไปสู่สุคติ บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน พลตรี ประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ได้เชิญพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตมาเจรจาและลงลายลักษณ์อักษรในเรื่องเงินเยียวยา ณ ที่ว่าการอำเภอธาตุพนม โดยมี นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 พรรคเพื่อไทย บุคคลที่ญาติของผู้ตายให้ความเคารพนับถือ เป็นผู้ประสานให้มาพูดคุยกัน ซึ่งผลการเจรจาทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงกันเรียบร้อย และพอใจในสิ่งที่ทางทหารหยิบยื่นให้ จากนั้นญาติผู้เสียชีวิตก็เดินทางกลับเพื่อนำศพนายด่อนไปเผาดังกล่าว
ด้าน พลตรีประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ผบ.มทบ.29 เปิดเผยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะ พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ ท่านมีความห่วงใยเรื่องนี้มาก เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะทหารต้องทำงานร่วมกับประชาชน ในด้านการปราบปรามยาเสพติด ตามแนวตะเข็บชายแดน ซึ่งวันนี้ได้มีการแก้ไขปัญหาด้วยการเชิญพ่อและแม่ของผู้ตายมาพูดคุย ซึ่งครอบครัวของผู้สูญเสียและทางหน่วยสามารถตกลงกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย แต่สำหรับเงินเยียวยาที่ได้มีการเจรจาก็มีการเห็นชอบและทำหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมีนายอำเภอธาตุพนมร่วมเป็นพยาน แต่ขอสงวนเรื่องตัวเลขเอาไว้เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
นอกจากนี้ ผบ.มทบ.29 เน้นย้ำว่าต้องแยกแยะให้ถูกระหว่างเรื่องราวที่เกิดขึ้นและความมั่นคง ทหารที่กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษจากผลการกระทำของตน ซึ่งทั้งหมดจะต้องถูกนำตัวดำเนินคดีทั้งศาลทหารและศาลพลเรือน และยืนยันว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ส่วนด้านความมั่นคง ทหารที่ร่วมกันก่อเหตุจะถูกให้ย้ายออกจากพื้นที่ โดยจะมีทหารชุดใหม่เข้ามาแทน ดังนั้นความมั่นคงตามแนวชายแดน เช่น ยาเสพติด ตลอดจนสินค้าผิดกฎหมายยังเข้มข้นเหมือนเดิม
นางสาวจิตตรา ตะวังทัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ซึ่งเป็นญาติฝั่งผู้เสียชีวิต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเจรจาเป็นไปยังราบรื่น นายนิวัฒน์และนางป่านก็อโหสิกรรมต่อผู้กระทำผิด และเข้าใจดีว่าทางกองทัพก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทหารกลุ่มกระทำลงไป ตนทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในทุกมิติ สัมผัสทั้งทหารและตำรวจจึงรู้ว่าส่วนใหญ่เป็นคนดีที่ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดีดวงวิญญาณหลานชายก็ตายตาหลับและไปสู่ภพภูมิที่ดี
