นครพนม – หลานสาวเผยวินาทีสยอง ญาติร่ำไห้ระงมวัด สลด 3 ศพแม่ลูกตั้งเคียงกัน ลือสนั่นพญานาคอยากได้บริวาร 3 คน
กรณี นางบัณฑิตาภรณ์ พร้อมธนรัตน์ หรือติ๋ม อายุ 51 ปี และลูกชายอีก 2 คน คือ นายณัฐวัฒน์ พร้อมธนรัตน์ อายุ 24 ปี เด็กชายปัณวิทย์ พร้อมธนรัตน์ หรือน้องฟิวเจอร์ อายุ 10 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 4 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ลงไปเล่นน้ำคลายร้อนกับญาติพี่น้องรวม 11 คน และหางมหอยทรายในแม่น้ำโขง ริมตลิ่งบ้านดอนแพง หมู่ 7. ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม แต่น้องฟิวเจอร์ได้ออกไปเล่นกลางลำแม่น้ำโขง และพลัดหลงเข้าไปในร่องน้ำลึกที่มีน้ำไหลวน นางบัณฑิตตาภรณ์หรือติ๋มผู้เป็นมารดาและนายญัฐวัฒน์พี่ชาย พบเห็นจึงได้ว่ายน้ำเข้าไปช่วย แต่กลับกอดกันจมน้ำหายไปด้วยกันทั้งสามคนแม่ลูก ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำได้งมศพนางบัณฑิตาภรณ์ขึ้นจากน้ำได้ในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน เหลืออีกสองศพพี่น้องที่ยังต้องค้นหา ก่อนจะหยุดการค้นหาในเวลาประมาณ 01.30 น. วันใหม่ของวันที่ 25 เมษายน 2563 กระทั่งรุ่งเช้า เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) กู้ชีพสว่างศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมกันออกหาร่างผู้เสียชีวิตทั้งสอง โดยเวลาประมาณ 11.30 น. ก็สามารถงมร่างน้องฟิวเจอร์ขึ้นจากน้ำได้ จุดที่พบศพที่ห่างจากจุดจมน้ำไปประมาณ 150 เมตร ลักษณะเป็นการถูกน้ำม้วนซัดเข้าหาชายฝั่ง ลึกแค่ 1 เมตรเศษ ต่อมาเวลา 13.55 น. เจ้าหน้าที่ก็พบศพของนายณัฐวัฒน์ ห่างจากจุดที่จมประมาณ 120 เมตร โดยสภาพศพถูกน้ำพัดร่างไปตามแนวดิ่งของแม่น้ำโขง ห่างจากจุดที่พบศพน้องฟิวเจอร์ราว 100 เมตร ก่อนนำไปบำเพ็ญกุศลเคียงข้างกับศพนางบัณฑิตาภรณ์และน้องฟิวเจอร์ที่วัดชัยมงคล เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติๆ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์ น.ส.อิศรา แสงอรุณ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 ซอยเสรีไทย 43 แยก 3 เขตบึงกุ่ม กทม. เพื่อนสนิทในครอบครัวของผู้ตาย เล่าเหตุการณ์สยองให้ฟังว่า เมื่อนายณัฐวัฒน์เห็นน้องฟิวเจอร์หลงไปในร่องน้ำลึก จึงว่ายออกไปช่วย ขณะที่นางบัณฑิตาภรณ์หรือที่ตนเรียกว่าแม่ติ๋ม เห็นลูกชายทั้งสองกำลังจะจมน้ำ ก็รีบว่ายเข้าไปช่วย ส่วนตนก็ว่ายไปช่วยอีกแรงหนึ่ง แต่บริเวณดังกล่าวมีความลึกมาก ทีแรกแม่ติ๋มช่วยน้องฟิวเจอร์สำเร็จจึงผลักให้ขึ้นดอนทรายที่อยู่ใกล้ๆ แล้วใช้มือดันร่างตัวเองให้ว่ายเข้าหาฝั่งเช่นเดียวกัน แต่น้องฟิวเจอร์ไม่ยอมว่ายขึ้นดอนทราย กลับว่ายไปหาแม่ซึ่งขณะนั้นเชื่อว่าแม่ติ๋มน่าจะอ่อนแรงมาก และเป็นเวลาเดียวกับที่ร่างของนายณัฐวัฒน์ได้จมหาไปต่อหน้าต่อตา เมื่อตนสามารถว่ายขึ้นดอนทรายได้หันมาก็ไม่เห็นน้องฟิวเจอร์แล้ว ไม่ต่างจากแม่ติ๋มที่หมดแรงจมหายไปอีกคน
ด้าน นางนันฑิตา พร้อมธนวัฒน์ อายุ 62 ปี มีศักดิ์เป็นป้าของผู้ตาย เปิดเผยต่อว่า วันเกิดเหตุตนก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเล่นน้ำด้วย แต่นำหลานน้อยไปด้วยจึงกลับมาก่อน ไม่นานมีโทรศัพท์ของเพื่อนๆ ที่ไปลงเล่นน้ำ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งพูดไทยไม่ค่อยชัด พอจับใจความได้ว่าสามคนแม่ลูกจมน้ำหายไป ตนจึงชวนญาติออกไปดูพบเจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจน้องสะใภ้เพื่อยื้อชีวิตแต่ไม่สามารถเรียกชีพจรน้องกลับคืนมาได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ข่าวน่าสนใจ:
- หลวงพี่ขับเก๋งชนราวสะพาน เผยเดินทางดูแลโยมแม่ ชาวบ้านวอนหยุดดราม่า-ตรวจสอบความจริง
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- ประชาชนแห่ เสกเหรียญหลวงปู่คำไหล ในพระมหาเจดีย์วัดดัง แห่ตีเลขน้ำตาเทียน หลังสาธุชนนับพันแห่ร่วมพิธี
ขณะที่นายวชิรเกียรติ พร้อมธนรัตน์ อายุ 60 ปี สามีของนางติ๋ม พ่อของนายณัฐวัฒน์และน้องฟิวเจอร์ ที่สูญเสียคนอันเป็นที่รักในคราวเดียวกันถึง 3 คน เล่าว่าครอบครัวมีอาชีพเป็นเกษตรกรทำไร่นาสวนผสม ก่อนหน้านี้ภรรยาหารายได้เสริมด้วยการขายนมเปรี้ยว ภายหลังเลิกมาขายลูกชิ้นทอดและน้ำปั่นอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาลบ้านแพง มีลูกด้วยกัน 4 คน นายณัฐวัฒน์เป็นคนที่สอง กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยนครพนม คณะครุศาสตร์ ปี 4 ซึ่งในเทอมที่จะถึงจะมาเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนอนุบาลฯแห่งนี้ ส่วนน้องฟิวเจอร์จะขึ้นชั้น ป.4 โรงเรียนเดียวกับที่นางติ๋มขายลูกชิ้นทอด วันเกิดเหตุตนไม่ได้ไปด้วยแต่มีคนโทรศัพท์มาบอกว่ามีคนตกน้ำอยู่ที่บ้านดอนแพงมาดูหน่อย เมื่อมาถึงพบว่าคนที่ตกเป็นเมียของตน เมื่อถามหาลูกอีกสองคนก็ได้รับคำตอบว่าจมอยู่ในน้ำ ตอนนั้นหัวใจแทบแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
สำหรับบรรยากาศที่วัดชัยมงคล เต็มไปด้วยความเศร้าสลด หลังนำศพนายณัฐวัฒน์มาแต่งตัวก่อนจะนำใส่โลงตั้งเคียงข้างกัน นายวชิรเกียรติแทบไม่มีแรงจะลุกขึ้นเดิน ค่อยๆเขยิบตัวไปที่ปลายเท้าลูกชาย นำผ้ามาเช็ดเท้าที่เปื้อนดินโคลนออก ก่อนจะนำถุงเท้ารองเท้ามาสวมใส่ให้ลูกชาย ไม่ต่างจากนางนันฑิตาผู้เป็นป้า นั่งเกาะขอบโลงศพร่ำไห้อย่างเวทนาแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก และเพื่อนๆของผู้ตายก็ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นเช่นเดียวกัน ส่วนการกำหนดวันฌาปนกิจยังไม่ได้ตกลงว่าจะเผาวันไหน
สำหรับวัดชัยมงคล สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศล 3 ศพแม่ลูก เป็นวัดสายธรรมยุต เมื่อประมาณ 10 ปีเศษ เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน โดยมี 3 คนพ่อแม่ลูกประสบอุบัติเหตุทางถนนเสียชีวิตทั้งหมด ญาติก็นำศพมาตั้งในศาลาวัดชัยมงคลแห่งนี้ ต่อมาก็เกิดเหตุเสียชีวิตจากการจมน้ำ 3 ศพ ญาติก็นำร่างมาตั้งไว้ในศาลาเดียวกัน ขณะมีเสียงร่ำลือว่าว่าบริเวณที่เกิดเหตุเหมือนเป็นวังพญานาค มักจะมีคนจมน้ำตายประจำ และมีชาวบ้านรายหนึ่ง(ขอสงวนนาม) อ้างว่าก่อน 3 แม่ลูกจะเสียชีวิต มีคนละแวกนั้นฝันว่าพญานาคอยากได้คนไปอยู่ด้วยสัก 3 คน กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: