พ่อกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมเข้าร้องทนาย รณณรงค์ หลังจากบุตรสาววัย 14 ปีถูกลูกชายของพี่สาวแท้ๆข่มขืน ล่าสุดถูกประกันตัวออกมาใช้ชีวิตตามปกติ แถมตนเองเป็นพ่อแท้ๆ ตำรวจไม่ให้เอกสารหลักฐานทางคดีแม้แต่แผ่นเดียว
วันที่ 28 เม.ย.63 นายเมืองพล (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปีชาว จ.อำนาจเจริญ ได้เดินทางไป ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืน ความยุติธรรมในสังคม หลังจากบุตรสาววัย 14 ปีได้ถูกคนในครอบครัวซึ่งเป็นลูกชายของพี่สาวแท้ๆ อายุ 27 ปีข่มขืนและมีการดำเนินคดีแล้ว โดยล่าสุดผู้ก่อเหตุที่เป็นหลานชายถูกประกันตัวออกมาหลังจากถูกจับดำเนินคดีได้เพียง 1 วันซึ่งเหตุการณ์นี้ผ่านไปเกือบ 1 เดือนตนเองผู้เป็นพ่อไม่เคยได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่เคยได้เอกสารอะไรเลยที่เกี่ยวข้องกับคดี เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางมาข้อความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ
นายเมืองพล บิดาของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ)อายุ 14 ปีเปิดเผยว่าตนเองมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขององค์การสงเคราะทหารผ่านศึก โดยปัจจุบันประจำอยู่ที่หน่วยงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด ซึ่งบุตรสาวจะอยู่กับครอบครัวที่มีพี่สาวเป็นคนดูแลให้อยู่บ้านในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ตนเองนานๆ ก็จะกลับบ้านครั้งหนึ่งเพื่อไปหาลูกกระทั่งเมื่อวันที่ 27 มี.ค.63 ที่ผ่านมาบุตรสาวโทรศัพท์มาบอกว่าถูกพี่ชายซึ่งเป็นลูกของพี่สาวตนข่มขืนโดยถูกกระทำมาตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.62 ปีที่ผ่านมาแต่ไม่สามารถโทรศัพท์มาบอกกับตนได้เนื่องจากถูกจับตามองตลอดเวลา อีกทั้งถูกผู้ก่อเหตุคือบุตรชายของพี่สาวข่มขู่ไม่ให้บอกพ่อ หลังจากตนเองทราบเรื่องวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 28 มี.ค.จึงได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากทาง มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ซึ่งตัวเองไม่สามารถเดินทางกลับไปบ้านได้เนื่องจากในช่วงนั้นมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด จึงไม่สะดวกในการเดินทาง จนมาวันที่ 1 เม.ย.63 ทางมูลนิธิปวีณาได้นำเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือตัวบุตรสาวของตนออกมาจากบ้านของพี่สาว และนำตัวบุตรสาวไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุคือลูกชายของพี่สาวแท้ๆ ของตน โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวบุตรสาวไปพักอยู่ที่บ้านพักเด็กในเขตจ.อำนาจเจริญ ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นตนเองมาทราบในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 2 เม.ย.ว่าได้ถูกประกันตัวออกมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ต่อมาในวันที่ 4 เม.ย.63 พนักงานสอบสวนได้เรียกตนเข้าไปสอบปากคำ หลังจากให้ปากคำเสร็จสิ้นตนเองขอเอกสารหลักฐานต่างๆไม่ว่าจะเป็นขอดูในส่วนสำนวนคดี บันทึกการแจ้งความดำเนินคดี ทางตำรวจปฏิเสธไม่ให้เอกสารรวมถึงไม่ให้ดูสำนวนคดีทั้งสิ้นและยังต่อว่าอีกว่าจะขอและจะดูไปเพื่ออะไร จนกระทั่งเวลาผ่านไปมาวันนี้ตนเองเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืน ความยุติธรรมในสังคม ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทนายรณรงค์กล่าวว่า ต้องดูทางโรงพักอำนาจเจริญในเรื่องคดีไปถึงไหนแล้วบ้าง ในวันนี้ผู้ปกครองเด็กพาบุตรสาวมาร้องเรียนเนื่องจากไม่มั่นใจในกระบวนการของการสอบสวนขอหลักฐานอะไรก็ไม่ให้ดูเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ผู้ปกครองเป็นคนเดียวเพราะแม่เสียชีวิตไปแล้วจึงมีสิทธิ์ทราบกฎหมายทางคดีมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ใบแจ้งความทำไมไม่ปริ้นท์ให้ผู้ปกครองเพราะเขามีสิทธิ์ดู ในสัปดาห์นี้จะให้ทางผู้ปกครองเข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.)ให้ทาง ปคม.ช่วยติดตามคดีอีกหนึ่งช่องทาง หากทางพื้นที่ไม่ให้ความเป็นธรรมหรือไม่ให้ความสะดวกสบายก็อาจจะให้ทาง ปคม.โอนคดีมาทำเองเพราะปัจจุบันเด็กอยู่พื้นที่ภาคกลางไม่ได้กลับไปพื้นที่ที่เกิดเหตุแล้ว
