กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ขอบคุณภาคเอกชนที่ลดการเลิกจ้างและหาอาชีพเสริมให้ลูกจ้าง ยืนยันดูแลผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม พร้อมเตือนทุกกระทรวง ระวังการเผยแพร่ข้อมูล หวั่นละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
วันที่ 28 เมษายน 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแสดงความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ยืนยันรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งจะทยอยดำเนินการ ตามสัดส่วนของงบประมาณที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งรายจ่ายประจำ งบประมาณกลาง และงบประมาณที่มาจาก พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน ซึ่งจะเร่งการดำเนินงานให้ทันสถานการณ์ รวมทั้งการช่วยเหลือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ แรงงานนอกระบบ นักศึกษา ประมาณ 16 ล้านคน และเกษตรกรอีก 10 ล้านครัวเรือน อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงลูกจ้างประกันสังคมอีก 11 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาเพิ่มเติม รวมทั้งมาตรการเยียวยาผู้พิการ โดยจะชี้แจงรายละเอียดในภายหลัง
นายกรัฐมนตรียังขอให้ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก รายใหญ่ ส่วนท้องถิ่น มีมาตรการเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับมาตรการทางสาธารณสุข และยึดความปลอดภัยต่อชีวิตประชาชนเป็นหลัก โดยแบ่งความเสี่ยงเป็น สีขาว สีเขียว สีเหลือง และสีแดง
ส่วนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจเอกชน 20 ราย ซึ่งทำหน้าที่ดูแลลูกจ้างในห่วงโซ่ของตนเองนั้น ได้รับทราบเรื่องการลดการจ้างงานให้น้อยที่สุด หาอาชีพเสริมให้แก่ลูกจ้าง รวมทั้งยังเสนอแนะด้านเศรษฐกิจ อาทิ การบริการจัดการน้ำ เพื่อให้มีแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค รวมทั้งจะทำงานร่วมกับรัฐบาล ในการดูแลประชาชนให้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยืนยันไม่มีผลประโยชน์กับภาคเอกชน และภาคเอกชนก็ไม่มีการเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น ขอประชาชนอย่ารับข่าวบิดเบือน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกกระทรวง ติดตามการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงและส่งผลกระทบต่อการทำงาน อยากให้ระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูล เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ทุกภาคส่วนมีความสำคัญในการช่วยเหลือรัฐบาลดูแลประชาชน อยากให้ทุกฝ่ายเผื่อแผ่แบ่งปันซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ลดความขัดแย้ง หวังว่าในอนาคต ประเทศไทยจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการตรวจหาผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ภาคธุรกิจเอกชนเห็นเช่นเดียวกับรัฐบาลว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านไป การดำรงชีวิต ทั้งด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพัฒนาประเทศให้เต็มรูปแบบ โดยต้องอาศัยภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การทำงานสำเร็จ
