โควิดเป็นเหตุ สาวผู้เป็นเสาหลักของบ้าน รายได้ลดลงเนื่อง จึงก่อเหตุลักของกินในห้างเอาไปเลี้ยง 4 ชีวิต ถูกแจ้งจับ ล่าสุด ยุติธรรมจังหวัดเข้าช่วย
จากกรณีมีหญิงสาวซึ่งทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จังหวัดสมุทรปราการ ถูกนายจ้างแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ซึ่งของกลางเป็นสินค้าอุปโภคประเภทปลากระป๋อง 1 กระป๋อง ไข่ไก่ 1 แพค 6 ฟอง หมูบด 1 แพค ที่วางจำหน่ายในห้างดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้บอกว่า ต้องทำงานเพียงลำพัง มีรายได้ทางเดียว สามี และ มารดา ของสามีก็ป่วย ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ รวมทั้งยังมีลูกสาวอีก 2 คน ตนจึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องทำงานหาเลี้ยงคนทั้งครอบครัว และที่ทำลงไปเพราะต้องการของเหล่านี้ไปให้ครอบครัวกิน เพราะในช่วงนี้รายได้ลดลง เหลือไม่พอที่จะซื้ออาหารกิน หลังห้างฯเปลี่ยนเวลาทำงาน จากปัญหาการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส โควิด-19 นายจ้างได้แจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้ถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา จนชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ข้างห้องสุดเวทนาจึงนำเรื่องเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ล่าสุดหลังจากเจ้าหน้าที่ยุติธรรม ทราบเรื่องได้เข้าหารือกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเตรียมช่วยเหลือทางคดี
ล่าสุดในวันนี้ที่ 29 เมษายน 2563 นายกมล บุญเสริม นิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดฯ ได้นำข้าวสารอาหารแห้งและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเดินทางเข้าเยี่ยมครอบครัวของหญิงสาววัย 31 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์นายจ้าง เพราะต้องการให้ครอบครัวอยู่รอด ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่า นิรันดร์ คอนโดมิเนียม ชั้น 1 เลขที่ 2017/2 ซอยเทพารักษ์ 4 ม. 4 ต. เทพารักษ์ อ.เมือง จ. สมุทรปราการ
ขณะที่มารดาของสามีวัย 63 ปี ของพนักงานสาวคนดังกล่าวที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ได้เล่าว่า หญิงสาวคนที่ถูกจับกุมเป็นลูกสะใภ้ของตน ส่วนลูกชายตนที่เป็นสามีของลูกสะใภ้ ก็ป่วยด้วยโรคหมอนลองกระดูกทับเส้นทำงานไม่ได้ และยังมีหลานสาอีก 2 คน อายุเพียง 10 ขวบ ทำให้ลูกสะใภ้ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว และกลายเป็นเสาหลักของบ้าน เพราะเป็นคนหาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว หลังที่ลูกสะใภ้ถูกจับกุมไป ทางครอบครัวก็ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะนอกจากตนเองจะ ชราภาพ และ ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์แล้ว บุตรชายก็มีโรคประจำตัว เกิดอาการหมอนรองกระดูกทับเส้น ไม่สามารถทำงานประจำได้ ส่วนหลานสาว อายุ 11 และ 7 ขวบ ก็ยังอยู่ในวัยเรียน ตนเชื่อว่าที่ลูกสะใภ้ทำลงไปเพื่อต้องการหาอาหารมาให้ครอบครัวได้กินประทังชีวิต เนื่องจากในช่วงนี้ทางห้างที่ทำงานอยู่มีการเปลี่ยนเวลาทำงานทำให้รายได้ลดลงไม่พอที่จะซื้อข้าวกิน
นายกลม บุญเสริม นิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่อง จึงโทรศัพท์ไปถามข้อมูลจากครอบครัวของหญิงสาวคนดังกล่าว ได้ทราบว่าขาดแคลนอาหาร จึงได้รีบจัดหาและเร่งนำไปให้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น เนื่องจากในช่วงนั้นใกล้ถึงเวลาเคอร์ฟิวจากนั้น จึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบ ซึ่งก็มีหลายภาคส่วนเข้าให้ช่วยเหลือแล้ว ในส่วนของคดี ได้ไปพูดคุยกับ ผู้ต้องหาที่เรือนจำฯ ก่อนนำข้อมูลเข้าหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อเสนอต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ให้พิจารณาขอทำเรื่องขออนุญาตประกันและปล่อยตัวชั่วคราว ตามข้อกำหนด กองทุนยุติธรรม
