X

เริ่มแล้ว ศิลปินเรือไฟนครพนม มีเวลาแค่ 40 วัน เร่งสร้างให้ทันวันไหล คืนเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11

นครพนม – วันที่ 18 ก.ย.61 บรรยากาศบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าโรงเรียนสันตยานันท์ ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เริ่มมีรถบรรทุกลำไม้ไผ่จำนวนมากมากองไว้ พร้อมกับกางเต้นท์ตั้งซุ้มมานอนค้าง เพื่อเตรียมขึ้นโครงสร้างเรือไฟ ประเดิมเป็นเจ้าแรกของปีมาจาก อ.ศรีสงคราม โดยมีนายคำดี คำเกตุ อายุ 59 ปี เป็นหัวหน้าศิลปินเรือไฟ ขนอุปกรณ์สิ่งของประดิษฐ์เรือไฟ ตามประเพณีสืบทอดภูมิปัญญาของคนในลุ่มแม่น้ำโขง โดยเปิดเผยว่าร่วมสร้างเรือไฟมาตั้งแต่ปี 2533 มีประสบการณ์จากครูบาอาจารย์สั่งสอน นำศิลปินเรือไฟชุดแรก 28 ชีวิต มาสร้างฐานและขึ้นโครง ปีนี้เรือไฟ อ.ศรีสงคราม มีความยาว 80 เมตร สูง 24 เมตร หรือเท่ากับตึก 8 ชั้น หลังขึ้นโครงเป็นรูปเป็นร่างก็จะมีชุดเสริมจากตำบลต่างๆทั่ว อ.ศรีสงคราม ผลัดเปลี่ยนมาช่วยสร้างวันละ 60 คน โดยมีชุดแรก 28 คนเป็นตัวหลัก และมีเวลาแค่ 40 วัน ต้องเร่งสร้างเรือไฟให้เสร็จทันวันไหลคืนเดือนเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับวันพุธที่ 24 ต.ค.นี้

ปัญหาที่พบในตอนนี้คือหลังน้ำโขงลด มีโคลนตมหนาประมาณ 30 ซม. ผู้สรรค์สร้างเรือไฟต้องลุยโคลนทำงาน ยิ่งทราบข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาฯว่า จะมีพายุพัดพาดมาอีก ยิ่งเป็นอุปสรรคแก่ศิลปินเรือไฟทุกอำเภอ แต่จะเร่งสร้างทั้งกลางวันและกลางคืนทันวันไหลเรือไฟแน่นอน

“เราได้ครองแชมป์เรือไฟประเภทความคิดมาแล้ว 3 ปี ก็จะมาป้องกันแชมป์เป็นปีที่ 4 และมั่นใจว่าจะรักษาแชมป์ไว้ได้”นายคำดีหัวหน้าศิลปินเรือไฟจาก อ.ศรีสงคราม ผู้มีประสบการณ์มากว่า 28 ปีกล่าว ขณะเดียวกันมีกลุ่มศิลปินเรือไฟจากอำเภออื่น ทยอยขนลำไม้ไผ่มากองเตรียมสร้างเรือไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมีเรือไฟจากฝีมือคนในลุ่มแม่น้ำโขง ทั้ง 12 อำเภอ ร่วมแรงร่วมใจกันนำไม้ไผ่มาต่อประดิษฐ์แล้วขึ้นรูปตามจินตนาการ จะไหลโชว์ความงามกลางแม่น้ำโขงในคืนวันออกพรรษา ปีนี้ จังหวัดนครพนม กำหนดจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 17-25 ต.ค. ซึ่งจะมีเรือไฟที่สวยงามยิ่งใหญ่อลังการส่งเข้าประกวดมากกว่า 13 ลำ มีขนาดความยาว ตั้งแต่ 50 – 80 เมตร ใช้ตะเกียงไฟประดับตกแต่งมากกว่า 30,000 – 50,000 ดวง

ประเพณีไหลเรือไฟ คนในลุ่มแม่น้ำโขงยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ เพื่อระลึกถึงพระคุณของน้ำ ซึ่งมีประโยชน์ต่อมวลมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย เชื่อว่าเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา และถือว่าเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากเทวโลก หลังเสด็จจำพรรษาที่ดาวดึงส์พิภพ พร้อมแสดงธรรมเทศนาอภิธรรม 7 คัมภีร์ เพื่อโปรดพุทธมารดา เมื่อถึงวันออกพรรษาก็เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ บางตำนานก็กล่าวว่าการไหลเรือไฟ เป็นการบูชารอยพระพุทธบาท คราวพระยานาคทูลอาราธนาพระพุทธองค์ไปแสดงธรรมใต้บาดาล เมื่อเสด็จกลับพระยานาคทูลขอให้พระองค์ทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ที่หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที อันเป็นที่อยู่ของพระยานาค ฝูงนาคทั้งหลายจึงได้สักการบูชารอยพระพุทธบาทนั้นแทนพระองค์ เหตุนี้การไหลเรือไฟจึงถือว่าเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท บางตำราก็ว่าไหลเรือไฟเป็นการบูชาพระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน