นายแพทย์ กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จุฬารัตน์ จำกัด พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และทีมงาน ขออาสาร่วมใจสู้ภัยโควิด หอบเงินเกือบสองล้าน แจกเบี้ยยังชีพผู้ได้รับผลกระทบโควิด ที่โรงเรียนวัดกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ที่ 30เมษายน 2563 ที่โรงเรียนวัดกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายแพทย์ กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จุฬารัตน์ จำกัด พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และทีมงาน ได้นำเงินจำนวน 1,600,000 บาท พร้อมข้าวสาร 800 ถุง หน้ากากผ้าอีกว่า 1,600 ชิ้น มาแจกชาวบ้านชุมชนวัดกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กว่า 800 หลังคาเรือนซึ่งเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด และการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ตามที่รัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยได้แจกเบี้ยยังชีพครอบครัวละ 2,000 บาท พร้อมด้วยข้าวสาร 1 ถุงหนัก 5 กิโลกรัม
นายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จุฬารัตน์ จำกัด ได้กล่าวว่า วันนี้ได้จัดโครงการจุฬารัตน์อาสาร่วมใจสู้ภัยโควิด ซึ่งเรามองถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชน ในเขต อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยทางโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ,9,1 และจุฬารัตน์ 5 ที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางพลี เรามองเห็นว่าชาวบ้านในอำเภอบางพลี ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด ที่ต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ออกมาประกอบอาชีพลำบากรายได้ก็ลดลง ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วเรามองเห็นความเดือดร้อนของคนยากจนที่จำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ส่วนหนึ่งเราอยู่ในพื้นที่เรามองเห็นสังคมรอบ ๆ ตัวเรากำลังเดือดร้อน เราก็นิ่งดูดายไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งก็ต้องช่วยเหลือรัฐบาลด้วย ที่ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง เราอยู่ในพื้นที่เรารู้ว่าใครเดือดร้อน จากการที่เราได้สัมผัสกับผู้นำชุมชนผู้ใหญ่บ้าน ทำให้เราทราบว่าชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจะไม่มีอันจะกินแล้ว เราเองก็ต้องเป็นตัวอย่างให้สังคมได้รู้ว่า คนที่มีความสามารถที่จะช่วยสังคมได้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาช่วย มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล
ซึ่งตนก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง และตอนนี้ในเรื่องเงินเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวบ้านเป็นอย่างมากที่สุดจากที่เราติดตามข่าวทุกวันนี้ ทางบริษัท จุฬารัตน์ ซึ่งเปิดโรงพยาบาลอยู่หลายแห่งในจังหวัดสมุทรปราการ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ที่เราประกอบธุรกิจอยู่ เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมและชาวบ้านที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก จึงได้จัดโครงการจุฬารัตน์อาสาร่วมใจสู้ภัยโควิด โดยมอบหมายให้ฝ่ายปกครองอำเภอบางพลี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำการคัดกรองครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือโดยการมอบเงินเบี้ยเลี้ยงชีพให้ครอบครัวละ 2 พันบาท พร้อมข้าวสารอีกครอบครัวละ 1 ถุง หนัก 5 กิโลกรัม พร้อมด้วยหน้ากากอนามัยแบบผ้าเพื่อใช้ในการป้องกันการติดเชื้อ จำนวน 800 ครอบครัว ที่ได้รับความเดือดร้อนไปก่อน และอยากให้คนอื่นๆที่มีใจที่จะช่วยเหลือประชาชน ให้ออกมาช่วยกันเสียสละเงินทองเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความลำบากอยู่ในขณะนี้ได้ ไม่ใช้เฉพาะในอำเภอบางพลี แต่อยากให้ทุก ๆ อำเภอได้ออกมาช่วย ๆ กันในยามที่บ้านเมืองกำลังวิกฤตอยู่ในขณะนี้
