ศธ. ร่วมมือ กุเกิ้ล อบรมเชิงปฏิบัติการ”พลิกโฉมและยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Google for Education” เริ่มต้นโครงการในโรงเรียนประถม-มัธยมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 705 โรงเรียน ก่อนขยายผลต่อไป
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) เปิดอบรมเชิงปฏิบัติการ “พลิกโฉมและยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Google for Education” จัดโดย Google ประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ หวังยกระดับการศึกษาไทยแบบพลิกโฉม ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและแอพพลิเคชั่น “G-Suite for Education” ให้บริการไม่จำกัดพื้นที่ฟรี
เพื่อจัดเก็บข้อมูลสำหรับสถานศึกษาทั่วประเทศไทย พร้อมสนับสนุนการอบรมพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาเพื่อเสริมสมรรถนะการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต่อยอดสู่การสร้างชุมชนครูเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยี เริ่มต้นโครงการในโรงเรียนประถม-มัธยมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 705 โรงเรียน ก่อนขยายผลต่อไป
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การทำให้ประเทศไทยเป็น 4.0 ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่กับนวัตกรรม ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้นำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่องทั้ง DLTV, DLIT, TEPEOnline ประกอบกับการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ แบบบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนปฏิรูปการศึกษา
รวมทั้งแผนบูรณาการการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นที่มาของการประกาศนโยบายให้ “ปี 2561 เป็นปีแห่งการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มุ่งเน้นให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม” โดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นอีกโครงการที่มีคุณค่าในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและแอพพลิเคชั่นเพื่อการศึกษา (G-Suite for Education) มาประยุกต์ใช้ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างบูรณาการ โดยมีวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้านวิชาการและใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ทั้งต่อความเข้าใจในหลักการ
และการนำไปใช้บริหารงานของผู้อำนวยการโรงเรียน การพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถบูรณาการในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาแนวคิดในการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งเชื่อมโยงไปสู่การสอบ การวัด และประเมินผลในอนาคต
ดังนั้น การจะใช้คำว่า “พลิกโฉม” คงไม่เกินเลยจากความเป็นจริง เพราะผลสัมฤทธิ์มาจากการที่ทุกคนและทุกภาคส่วนได้ร่วมกันขับเคลื่อนงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดเป็นภาพความสำเร็จแล้วในหลายส่วน โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องของเทคโนโลยีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดประเทศไทย 4.0 ขึ้นได้ พัฒนาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เทคโนโลยี ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ ระบบ ควบคู่ไปกับการดำเนินการในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษานำร่องของจังหวัดปัตตานี ตามมติคณะกรรมการซุปเปอร์บอร์ด ที่ให้นำร่องเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาครบ 6 ภาคๆ ละ 1 จังหวัดทั่วประเทศ
คือ ภาคใต้ ที่สตูล, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ศรีสะเกษ, ภาคตะวันออก ที่ระยอง, ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่, ภาคกลาง ที่กาญจนบุรี และภาคใต้ชายแดน ที่ปัตตานี เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนากำลังคน จบแล้วมีรายได้ มีงานทำ
นอกจากนั้น ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเข้มแข็ง ผลการประเมินจึงมีผลในทางที่ดี ประชาชนเกิดความพึงพอใจ และต้องการให้การศึกษาเกิดคุณภาพอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง สร้างโอกาสทางการศึกษา
เช่น ทุนการศึกษา การดูแลผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ 64 แห่ง แบบอยู่ประจำ โดยสนับสนุนทั้งในเรื่องการเรียน อาหาร และที่พัก และอีก 4 สถานศึกษาสังกัดอาชีวะ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็คือ “นวัตกรรมทางการศึกษา” เมื่อรวมกับ “เทคโนโลยีสารสนเทศ” แล้ว ก็คือการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0
ด้านนายจิระวัฒน์ ภูมิศรีแก้ว ผู้จัดการฝ่ายนโยบายและความสัมพันธ์ภาครัฐ บริษัท กูเกิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Google ต้องการสนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการเพื่อยกระดับการศึกษาไทยแบบพลิกโฉม ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และแอพพลิเคชั่นเพื่อการศึกษา (G-Suite for Education) มาประยุกต์ใช้ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ
เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาอย่างบูรณาการ พร้อมสนับสนุนการอบรมพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเสริมสมรรถนะการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต่อยอดสู่การสร้างชุมชนครูเพื่อการเรียนรู้เทคโนโลยี โดยกลุ่มเป้าหมายในครั้งนี้คือ
โรงเรียนระดับประถมฯ และมัธยมฯ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 705 โรงเรียน พร้อมสนับสนุนขยายผลครอบคลุมทุกโรงเรียนในจังหวัดชายแดนใต้ต่อไป
Google พร้อมจะสนับสนุนแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ซึ่งให้บริการที่ไม่จำกัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้กับสถานศึกษาทั่วประเทศไทยฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และสนับสนุนการอบรมให้ความรู้พัฒนาบุคคลกรในจังหวัดชายแดนใต้ โดยระยะเวลาของเริ่มต้นโครงการ เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. 61 – มี.ค. 62 ซึ่งทีมงานของ Google จะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือทางเทคโนโลยีเบื้องต้น
จัดหาผู้เชี่ยวชาญในการฝึกอบรม จัดข้อมูลการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อการศึกษาออนไลน์เพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถศึกษาการใช้ Google Apps for Education ด้วยตนเองทางออนไลน์ www.google.com/edu/ รวมทั้งบน Google+ อีกทั้งจะสนับสนุนชุมชนครู Google Educator Group ให้สามารถขยายผลกันเองได้ เพื่อความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: