สมุทรปราการ – ผู้บัญชาการ ปส.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจค้นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ภายในหมู่บ้านบางปูนคร 2 หลังจากสืบทราบว่า บ้านหลัง ดังกล่าวเป็นของผู้ต้องหาตามหมายจับความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ วันที่ 25 ธันวาคม 2560 พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการ ปส. พ.ต.อ.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบก.ปส.1กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปราบปรามยาเสพติด และ กำลัง เจ้าหน้าที่ ตำรวจกองปราบปราม และ ทหาร เข้าตรวจค้นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา เลขที่ 654 ซอยเทพารักษ์ 114 หมู่บ้านบางปูนคร 2 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจากสืบทราบว่า บ้านหลัง ดังกล่าวเป็นของนายพงษ์ชัย เทียมทัด อายุ 30 ปี และ น.ส.ศศิมาภรณ์ สุภานนท์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา ความผิดตามพระราชบัญญัติสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
ขณะตรวจค้นพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้ไหวตัวทันได้หลบหนีออกทางชายแดนแม่สาย ไปกบดานในประเทศพม่าก่อนแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้พบ รถเก๋ง BMW สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ร 0092 กทม. ซึ่งเป็นของนายพงษ์ชัย จอดอยู่ที่ชายแดนภาคเหนือ จากการภายในบ้าน เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านหลายรายการ ซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก กระเป๋า เข็ดขัด รองเท้าแบรนเนม นาฬิกาข้อมือหรู และยังพบบัญชีรายละเอียดชี้แจงการโอนเงินให้กับเครือข่ายยาเสพติดเป็นตัวเลขกว่า 11 ล้านบาท พร้อมทั้งอายัดบ้านหลังดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าวกว่า 10 ล้านบาท ไว้ตรวจสอบ
พล.ต.ท.สมหมาย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ เป็นรายสำคัญ อยู่ในระดับสั่งการ เชื่อมโยงกับนางมินเตงเอ ผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินยาเสพติดหมื่นล้านบาท ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ และทราบว่าทั้งสองคนไหวตัวหลบหนีไปที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว และยังเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะมีบ้านอยู่หลายหลังเพื่อไว้ซุกซ้อนเงิน เนื่องจากเราไม่พบตู้เซฟ ของมีค่าอื่นๆ สำหรับการทำงานกระบวนการนั้น ผู้ร่วมกระบวนการจะทำการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ไปให้กับนางมินเตงเอ เพื่อรวบรวมส่งไปให้กับพ่อค้ารายใหญ่รายใหญ่ที่ประเทศพม่า ซึ่งจำนวนเงินที่พบการโอนของนายพงษ์ชัย นั้น มี มากกว่า 1 ร้อยล้านบาท สำหรับตัวฝ่ายหญิง ทราบว่า แต่งงานบ่อย และบอกกับญาติว่า นายพงษ์ชัย เปิดบ่อนอยู่ชายแดน อย่างไรก็ตามเมื่อเราไม่พบยาเสพติด แต่เราจะทำการยึดทรัพย์ทรัพย์ไว้ทั้งหมด พร้อมกับประสาน กับเจ้าหน้าที่ในประเทศพม่า ตามล่าตัวทั้งสองคนมา ดำเนินคดีต่อไป
