ชัยภูมิ – ส่วนเงินที่ขโมยได้ไปกว่า 2.5 พันบาท ถ้าเดือดร้อน ก็ให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วงโควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบให้คุ้มค่าในช่วงนี้ให้มากที่สุด และขอให้รีบกลับใจอย่าทำผิดอีก ส่วนเอกสารสำคัญที่หายไปด้วยลุงยามวัย 62 ปี ยังมีความจำเป็นต้องใช้เป็นเอกสารสำคัญที่จะช่วยนำไปใช้ดูแลคนในครอบครัวได้อีกมาก ขอให้หัวขโมยแสบรายนี้อย่านำไปทิ้ง แต่ขอให้รีบนำเอามาคืน จะไม่เอาเรื่อง!
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 พ.ค.63 ร.ต.ท.กมล แสนมาโนช รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุจากนายหนูลี เนาว์นนท์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 18 ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ยาม ประจำเฝ้าตึกแถวห้องพักทั้งแบบรายวันและรายเดือน อพาร์ทเม้นท์ตั้งอยู่ริมถนนรอบวงเวียงหอพญาแล เยื้องวัดชัยประสิทธิ์ ซึ่งเป็นย่านกลางเมืองชัยภูมิ ว่ามีหัวขโมยแสบแอบมาขโมยกระเป๋าสะพาย ที่ใส่เงินสดและเอกสารสำคัญที่แขวนไว้ใกล้หัวเตียงนอนที่พักยาม ในอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวหายไปเมื่อช่วงเช้าที่ตัวเองตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีคนแอบมาขโมยกระเป๋าดังกล่าวหายไป
จึงตรวจสอบสิ่งของที่ถูกหัวขโมยรายนี้ขโมยไปทั้งหมดว่ามีอะไรหายไปในครั้งนี้บ้าง ที่มีทั้งโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ใต้ชั้นโต๊ะทีวี หายไปด้วยอีก 1 เครื่อง และในกระเป๋าสะพายมีเงินสดอีกประมาณ 2,500 บาท บัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรประจำตัวโรงพยาบาล สมุดบัญชีฝากธนาคาร และเอกสารสำคัญอื่น ๆที่มีความสำคัญต่อตนเองอีกจำนวนมาก
ก่อนที่จะเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ และอยากให้หัวขโมยรายนี้รีบกลับใจ ช่วยนำเอกสารสำคัญที่ไม่น่าจะนำไปใช้ได้ ทั้งบัตรปชช. บัตรใบขับขี่ เอกสารสมุดธนาคารต่างๆ ที่ลุงเองจำเป็นต้องนำไปใช้เพื่อประโยชน์ต่อคนในครอบครัวลุงเองได้อีกเป็นจำนวนมาก และไม่อยากให้นำไปทิ้ง น่าจะช่วยนำกลับมาคืนตนเองจะดีกว่า ส่วนเงินสดที่ได้ไปกว่า 2,500 บาท ไม่เป็นไรหากหัวขโมยรายนี้มีความจำเป็นต้องใช้ ในช่วงที่ก็รู้ๆ กันดีว่าช่วงภาวะโควิด –19 ระบาดส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินคนไปทั่ว จึงมาขโมยเงินไปมีความจำเป็นก็ใช้ไปให้เกิดประโยชน์ให้คุ้มค่าที่สุดในครั้งนี้ช่วงภาวะโควิดระบาด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือที่ก็มีมูลค่าประมาณ 7,500 บาท ที่ขโมยไปด้วยนำไปใช้ก็ไม่ได้ เพราะลุงเองมีรหัสล็อกปิดเครื่องโทรศัพท์ไว้นำไปก็ใช้ไม่ได้แน่ จึงอยากให้นำสิ่งของที่หัวขโมยรายนี้คิดว่าจะนำไปทิ้ง ช่วยนำมาคืนให้ตนเองจะดีกว่า ซึ่งอาจจะแอบนำกลับมาห้อยคืนไว้ที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวไว้คืนก็ได้ และอยากขอให้รีบกลับใจอย่าไปทำผิดแบบนี้อีกและจะไม่เอาเรื่องในครั้งนี้
ขณะที่ ร.ต.ท.กมล แสนมาโนช รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังสอบปากคำนายหนูลี เนาว์นนท์ ลุงยามวัย 62 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลเฝ้าห้องพักกมลอพาร์ทเมนท์ ผู้เสียหายแล้ว จะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจ ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยไม่กลัว พ.รก.ฉุกเฉินอีกด้วย เพื่อจะได้เร่งติดตามตัวหัวขโมยแสบรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: