นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาน้องหมีพลูพร้อมคุณแม่เข้าพบ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)จังหวัดนนทบุรี หลังจากประสบอุบัติเหตุและประกันภัยยังไม่ชดใช้ค่าเสียหาย ล่าสุดประกันภัยยอมจ่ายค่าเสียหายให้คุณแม่น้องหมีพูลวัย 14 ปีแล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 7 พ.ค.63 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) จังหวัดนนทบุรี ถ.รัตนธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา ด.ช.ภูริภัทณ์ หรือน้องหมีพลู ศรีทองคำ อายุ 14 ปี พร้อมด้วยนางณัฐชาวีรีย์ ภิรมย์เมือง แม่ของน้องพู ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 62 ได้รับบาดเจ็บหัวไหล่หลุด แขนหัก ก้านคอร้าว และเดินไม่ได้ เข้าพบนายไมตรี ชนูดหอม ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)จังหวัดนนทบุรี เพื่อขอให้เป็นคนกลางในการประสานไกล่เกลี่ยกับทางบริษัทประกัน ที่ทางเจ้าของรถคู่กรณีได้ทำไว้กับบริษัทในด้านการช่วยเหลือเงินสินไหมทดแทนประกันอุบัติเหตุตามพรบ.คุ้มครองรถยนต์ หลังจากเกิดเหตุทางผู้เสียหายยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากทางบริษัทประกันภัย และยังไม่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อตกลงค่าสินไหมทดแทน
ต่อมานายนริศ คล้ายทิพย์ ผจก.บริษัทวิริยะประกันภัย ได้เดินทางมาที่สำนักงานคปภ.เพื่อพบกับสองแม่ลูกในการเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยทางนายนริศได้มีการยกมือไหว้ขอโทษสองแม่ลูกพร้อมเผยถึงสาเหตุที่ทำให้การชดใช้ค่าเสียหายล่าช้า เนื่องจากทางบริษัทต้องรอเอกสารจากทางแพทย์ที่ให้การรักษา ว่าการรักษานั้นระบุว่าอย่างไรบ้าง ทางบริษัทเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย ซึ่งทางเราก็พึ่งได้รับเอกสารในการรักษา เบื้องต้นทางบริษัทจะต้องจ่ายค่าเสียหายตามพรบ.คุ้มครองรถยนต์เป็นเงินจำนวน 250,000 บาท โดยจะจ่ายให้ในวันอังคารที่จะถึงนี้ ส่วนค่าชดเชยสำหรับคนเจ็บ ที่ยังไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพได้นั้น ตอนนี้เรายังให้ตำตอบเป็นตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวเกิดมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความเสียหาย แต่รับรองว่าจะดูแลชดใช้ในทุกด้านที่ผู้เสียหายได้รับผลกระทบ
ด้าน นางณัฐชาวีรีย์ ภิรมย์เมือง กล่าวว่าตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมาครอบครัวมีความเดือดร้อนมาก รถและที่ดินที่เอาไปจำนองเพื่อนำเงินมารักษาตัวนั้นก็จะถูกยึดเนื่องจากไม่มีเงินไปส่งดอกเขา ส่วนคู่กรณีก็ไม่ได้มาดูแลอะไร ตั้งแต่เกิดเหตุเคยมาเยี่ยม 1 ครั้งพร้อมมอบเงินช่วยเหลือมา 5,000 บาท ตอนที่รักษาครั้งแรกคิดว่าไม่เป็นอะไรมากเพราะผลตรวจสมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน แต่พอไปตรวจครั้งที่สอง ทางหมอบอกว่ามีอาการก้านคอร้าวทำให้ขาไม่มีแรง โดยออกใบรับรองแพทย์มาให้ว่าต้องหยุดพักรักษาตัวประมาณ 1 ปี เลยทำให้ครอบครัวขาดรายได้ เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้งแต่ลูกๆก็ห้ามไว้ วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือจากหลายๆฝ่าย ต้องขอขอบคุณทุกคนเลย
นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า หลังจากได้รับจดหมายจากน้องพูขอความช่วยเหลือให้ช่วยฟ้องร้องเรียกเงินจากบริษัทประกันภัย ตนจึงได้ประสานมายัง คปภ.จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้เป็นคนกลางในการติดต่อประสานกับทางบริษัทประกันภัย ให้เข้ามาดูแลเรื่องชดเชยความเสียหายที่ผู้ประสบอุบัติเหตุได้รับ ซึ่งทางคปภ.จังหวัดนนทบุรี ก็ได้มีการประสานงานไปและนัดให้มาตกลงกันที่สำนักงานในวันนี้ ซึ่งทางบริษัทประกันก็มาตามที่นัดหมายไว้ เบื้องต้นได้มีการพูดคุยตกลงกันในการชดเชยเงินค่าความเสียหายตามที่ผู้เสียหายร้องขอ แต่จะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่นั้นก็คงเป็นเรื่องของมนุษธรรม ตาม พรบ.คุ้มครองรถยนต์เขามีอัตราการจ่ายชดเชยอยู่แล้ว แต่ในส่วนที่ทางบริษัทจะจ่ายเพิ่มให้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากผู้เสียหายเขาไม่สามารถประกอบอาชีพได้ในตอนนี้ทางบริษัทประกันต้องพิจารณาตามความเห็นสมควรและพอใจทั้งสองฝ่าย
ทางนายรณรงค์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถยนต์ ถ้าเห็นว่าการเจรจาเรื่องความช่วยเหลือล่าช้านั้น เบื้องต้นเราไม่ต้องไปฟ้องเรียกค่าเสียหายเพราะมันจะทำให้ช้าและเสียเวลา ให้มาขอความช่วยเหลือที่สำนักคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด จะได้รับการประสานงานความช่วยเหลือที่รวดเร็ว
