นครพนม – ลูกสาวเผยลางสังหรณ์ ก่อนแม่จะถูกพ่อฆ่าโบกปูน ลูกชายคนกลางยังเข้มแข็ง “สามพี่น้องต้องผ่านฝันร้ายไปด้วยกัน”
คืบหน้าคดีนายพิส จันดาประดิษฐ์ อายุ 53 ปี ใช้อิฐบล็อกทุบหัวนางบุญเลิศ จันดาประดิษฐ์ อายุ 49 ปี ผู้เป็นเมียจนเสียชีวิต ก่อนจะลากศพไปโยนทิ้งในบ่อเกรอะหลังบ้านแล้วโบกปูนทับ กระทั่งลูกสาวคนโตเอะใจ จึงใช้ค้อนทุบจึงพบร่างแม่ในสภาพเปลือยกายอยู่ก้นบ่อ ขณะที่ตำรวจตามจับผัวมือฆ่ามาสอบสวน สารภาพเก็บกดมานานถึง 20 ปี เพราะภรรยานอกใจคบชายอื่นหลายคน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 บริเวณหลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 8 บ้านนาซอ ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนางบุญเลิศ มีเพื่อนบ้านและญาติๆมาช่วยงานจำนวนหนึ่ง และจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 10 พฤษภาคม นี้ เดิมจะเผาวันที่ 9 พฤษภาคม แต่พระสงฆ์มีกิจนิมนต์ที่อื่นจึงไม่สะดวก
ย้อนกลับไปตอนที่นายพิสรับสารภาพต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ เกิดจากความคับแค้นใจที่เมียคิดไม่ซื่อต่อตน แม้จะให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่า อยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 2528 จนมีลูกด้วยกัน 3 คน หญิงหนึ่งชายสอง โดยมีนางสาวนิตยา จันดาประดิษฐ์ อายุ 29 ปี เป็นคนโต คนกลางชื่อนายพิชญะ จันดาประดิษฐ์ อายุ 28 ปี และคนเล็กเป็นเด็กพิเศษ
ข่าวน่าสนใจ:
- สสจ.นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย ‘คนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง’ เตรียมตั้งศูนย์ฯ ใน รพ. พร้อมยกนระดับระบบสุขภาพปฐมภูมิ ต่อสู้ NCDs
- คณะกรรมาธิการการพลังงาน ลงพื้นที่ศึกษาผลกระทบฝุ่นควันชายแดน นครพนม บึงกาฬ
- นครพนม : นรข. ติดตามขยายผลผู้ต้องหายาเสพติดพื้นที่อำเภอท่าอุเทน สร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด
นายพิสเล่าว่าด้วยฐานะทางบ้านยากจน จึงต้องดิ้นรนไปทำงานต่างประเทศส่งเงินมาให้เมีย และส่งลูกเรียนจนนายพิชญะเรียนจบวิศวกร ปัจจุบันทำงานอยู่ใน กทม. เหตุที่ต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าเมีย เพราะถูกหยามศักดิ์ศรีจนไม่สามารถจะสะกดใจได้ ฟางเส้นสุดท้ายขาดเพราะเมียอ้างจะพาชายคนใหม่มาทำให้เห็นในบ้าน จึงหน้ามืดยกอิฐบล็อกกระหน่ำตีจนเสียชีวิตคาที่
ต่อมานายพิชญะลูกชายคนกลาง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ระหว่างเรียนชั้นประถมและมัธยม ช่วงปิดเทอมได้ตามพ่อไปทำงานก่อสร้างทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด คิดตลอดเวลาว่าจะต้องเรียนให้จบ เพื่อยกฐานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้น กระทั่งมุมานะเรียนจนจบวิศวกร และได้ทำงานที่มั่นคง จึงคิดจะสร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อกับแม่อยู่ เนื่องจากบ้านหลังเก่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลา พ่อจึงมาปลูกบ้านบนที่ดินนาของแม่ โดยตนเป็นคนส่งเงินมาให้ซื้อวัสดุก่อสร้าง ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสองห้องนอน ห้องหนึ่งให้พ่อกับแม่นอน อีกห้องจะให้น้องชายที่ไม่สมประกอบอยู่ ส่วนตนนานๆจะกลับมาครั้ง จึงขอนอนที่โซฟาก็พอ และเพิ่งจะบวชทดแทนคุณบุพการีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“ตอนที่พี่สาวโทรไปบอกรู้สึกตกใจ แต่เคยคิดเสมอว่าพ่อกับแม่มีปากเสียงทะเลาะกันประจำ สักวันอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน และก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิดไว้ ส่วนบ้านหลังนี้ก็จะสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้น้องชายได้อยู่อาศัย และผมจะให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยครับ เหตุที่เกิดขึ้นไม่โทษใครทั้งสิ้น ถือว่ามันเป็นเวรเป็นกรรมที่เคยสร้างร่วมกันมาแต่ปางก่อน” นายพิชญะ เผย
ด้าน นางสาวนิตยา จันดาประดิษฐ์ ลูกสาวคนโต เผยลางสังหรณ์ก่อนแม่เสียชีวิตว่า แม่จะไปขอนอนบ้านพี่ๆจนครบทุกคน เหมือนเป็นการร่ำลา และก่อนตายเพียงสองวันก็พูดกับตนว่า ต่อไปลูกๆต้องหาเอาเองนะ แม่มีให้ได้แค่นี้ “แม่ห่วงที่สุดคือน้องคนเล็ก กำชับแล้วกำชับอีกว่าอย่าทิ้งน้องนะ..ฯ”
ส่วนร่องรอยบริเวณหลังบ้าน ยังมีรอยเลือดกระจายอยู่บริเวณพนังห้อง และบนแคร่ที่นายพิสอุ้มศพเมียมาเช็ดเลือดทำความสะอาด ส่วนปากบ่อเกรอะก็มีรอยเลือดเช่นเดียวกัน บรรยากาศในงานศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทุกคนล้วนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดกับครอบครัวของใครคนใดคนหนึ่ง จึงถือว่าครอบครัวนี้ สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งคู่ พ่อต้องติดคุกแม่ต้องตาย ซึ่งนายพิชญะเอ่ยว่า ”เราสามคนพี่น้องจะต้องฟันฝ่าฝันร้ายนี้ไปด้วยกันให้ได้”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: