นครพนม – ธนารักษ์นครพนม แจงเกาะดอนแพง ไม่ใช่ที่ราชพัสดุ ขณะผู้ร้องถูกกดดันให้ปิดปาก เทศบาลบ้านแพงยอมรับเป็นยักษ์ไม่มีกระบอง
จากกรณี นายอังกูร ถิ่นพนม ชาวอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ออกมาเปิดโปง การครอบครองที่ดินเกาะดอนแพง ซึ่งเกิดจากการตะกอนดินในแม่น้ำโขงไหลมาทับถมจนเกิดเป็นหาดขนาดใหญ่ มีเนื้อที่เกือบ 5 พันไร่ ครอบคลุมพื้นที่บ้านหัวหาด หมู่ 12 จรดบ้านท่าลาด หมู่ 9 ต.บ้านแพง เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง ระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร จึงเหมาะแก่การทำเกษตรทุกชนิด ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกพืชประจำถิ่น เช่น ใบยาสูบ มะเขือเทศ ข้าวโพดหวาน ฟักทอง แตงกวา ฯลฯ แต่อาจจะมีคนรวยอาศัยลูกมั่วเข้าไปครอบครองที่ดินดังกล่าว เมื่อตนตรวจสอบพบว่ามีชื่อซ้อใหญ่เศรษฐีนีระดับร้อยล้าน พร้อมชื่อสามีและลูกชาย โผล่เป็นเกษตรกรผู้ยากจน ครอบครองที่ดินมากถึง 62 แปลง จึงร้องเรียนสื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด นายพรศักดิ์ สาระบิล นายช่างสำรวจอาวุโส รักษาราชการแทนธนารักษ์พื้นที่นครพนม ได้ชี้แจงว่าในพื้นที่อำเภอบ้านแพงมีที่ราชพัสดุจำนวนทั้งสิ้น 60 ทะเบียน เนื้อที่ประมาณ 882 ไร่ ซึ่งทางธนารักษ์ได้ตรวจบริเวณที่นายอังกูร ถิ่นพนม ร้องเรียนแล้ว พบว่าที่บริเวณดังกล่าวไม่เป็นที่ราชพัสดุ ตาม พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 แต่อย่างใด
หลังมีข่าวออกไป นายอังกูรฯคนเปิดประเด็น ก็ได้รับหนังสือจากนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง ไปให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอังกูรก็เดินทางไปพบที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอบ้านแพงตามหนังสือระบุ โดยมีเจ้าพนักงานที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาบ้านแพง และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านแพง ร่วมสอบถามข้อเท็จจริงตามที่นายอังกูรร้องเรียนสื่อ โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าฟัง
ข่าวน่าสนใจ:
แต่ก่อนที่นายอังกูรจะเข้าไปในห้องประชุม ได้กล่าวขอโทษที่เคยกล่าวหาว่า ที่ดินเกาะดอนแพง เป็นที่ราชพัสดุ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง โดยมีเทศบาลตำบลบ้านแพงดูแลและจัดเก็บภาษีเข้ารัฐ ซึ่งภายหลังตนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าที่ดินดังกล่าวไม่ได้เป็นที่ราชพัสดุฯแต่หากเป็นที่สาธารณะที่อยู่ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทย ระบุเป็นที่ดินของรัฐอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งประกาศไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 ดังนั้นที่ดินเกาะดอนแพงจึงอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยมาตั้งแต่ต้นแล้ว จึงต้องขออภัยที่ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนผิดพลาดคลาดเคลื่อน
จากนั้นนายอังกูรก็เข้าไปในห้องประชุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยอมรับว่าที่ดินแห่งนี้ เจตนาของรัฐจัดสรรให้เกษตรกรเข้าไปทำประโยชน์จริง โดยมีหลักฐานเมื่อปี พ.ศ.2528 ระบุว่าเกษตรกรได้ไปเสียภาษีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เป็นค่าการใช้หรือทำประโยชน์ในที่ดินเกาะดอนแพง ไร่ละ 20 บาท/ปี ส่วนกรณีมีชื่อซ้อใหญ่พร้อมสามีและลูกชาย โผล่ชื่อครอบครองมากถึง 62 แปลง นั้น ต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนว่าได้มาอย่างไร และการนำที่ดินดังกล่าวไปให้เกษตรกรเช่าในราคาแปลงละ 5-7,000 บาท/ปี โดยไม่มีการเสียภาษีแม้แต่บาทเดียวนั้น ตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวหานั้นเท็จจริงอย่างไร โดยทางนายอังกูรผู้ร้อง ยืนยันว่ามีเกษตรกรรายหนึ่ง เช่าที่ดินที่ซ้อใหญ่อ้างเป็นผู้ครอบครองในราคาปีละ 7,000 บาท ตนจึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้เกษตรกรรายนั้น พร้อมแสดงหนังสือการลงบันทึกประจำวัน สภ.บ้านแพง ไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นนายอังกูรเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า หลังตนออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพลกลดังกล่าว ปรากฏว่ามีชื่อ-นามสกุลของตน ว่อนในซุ้มนักเลงภาคตะวันออก แสดงว่าต่อจากนี้ไปตนคงจะไม่ปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินเป็นแน่ นอกจากนี้นายอังกูรกล่าวต่อว่า มีฝ่ายปกครองเช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พูดจาข่มขู่ญาติพี่น้องของตน จึงทำให้เชื่อว่าคนกลุ่มนี้หรือเปล่าที่แสร้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ มีส่วนร่วมยกที่ดินหลวงให้ซ้อใหญ่ครอบครอง อยากให้ทางจังหวัดนครพนมตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ด้วย ลำพังซ้อใหญ่ทำคนเดียวคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่มีคนของรัฐรู้เห็นเป็นใจ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์นายดนัย สิทธิวัชระชัย นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านแพง เปิดเผยว่าที่ดินเกาะดอนแพงเป็นของกระทรวงมหาดไทย ที่จังหวัดนครพนมมอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(อบจ.ฯ) เป็นผู้จัดเก็บภาษีเข้ารัฐ ต่อมาได้มอบให้สุขาภิบาลตำบลบ้านแพง(ในขณะนั้น)เข้าไปดูแล แต่เหมือนยักษ์ไม่มีกระบอง เพราะ อบจ.นครพนม ไม่ได้มอบอำนาจให้จัดเก็บภาษีกับเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ทำกิน กระทั่งยกระดับมาเป็นเทศบาลตำบลบ้านแพง ก็ไม่เคยจัดเก็บภาษีแม้แต่บาทเดียวเป็นเวลานานกว่า 30 ปี แต่เทศบาลฯ ต้องเข้าไปดูแลเรื่องสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่นต้องจัดหา ระบบน้ำประปา ไฟถนน ให้แก่พื้นที่บริเวณดังกล่าวเสมอมา
“ทุกครั้งที่มีการประชุมประจำเดือนที่จังหวัดฯ ผมนำเรื่องดังกล่าวพูดในที่ประชุมตลอด แต่ยังไม่มีคำตอบจากทางจังหวัดว่าจะแก้ไขอย่างไร ถ้ามอบอำนาจการจัดเก็บภาษีให้เทศบาลฯ ก็นำเงินเข้าหลวง นำมาแก้ไขปรับปรุงได้อีกมากมาย “ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลบ้านแพง กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: