ประชาชนส่วนมากในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ยังมีข้อกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับ 1 นายอำเภอแม่สอดชี้ สินค้าส่งออกไทยไม่ถึง 1 แสนล้านบาทตามคาด เพราะอุทกภัยในพม่า
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2561 ที่ห้องประชุมบอลรูม โรงเเรมเซ็นทารา เเม่สอดฮิลล์ รีสอร์ท อ.เเม่สอด จ.ตาก นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานเเละร่างมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ครั้งที่ 3 ในพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรม 671 ไร่ ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผู้แทนจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แกนนำชุมชน ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก เข้าร่วมกว่า 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แจ้งว่า จากการเปิดรับฟังข้อคิดเห็น ปัญหา ข้อกังวล และข้อเสนอแนะต่างๆ 2 ครั้งที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่า ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก เพราะทำให้มีการจ้างงานในพื้นที่มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ก็ยังห่วงใยเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์มากขึ้น มลภาวะทางเสียงมากขึ้น ปัญหาขยะมูลฝอย และปัญหาน้ำเสีย ซึ่งจะนำไปสรุป รวมทั้งการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ด้วย 
ด้านนายชัยพกฤติ์ กล่าวว่า เขตนิคมอุตสาหกรรม ต้องขึ้นไปพร้อมๆกับส่วนอื่นๆ แต่ต้องไม่มีปัญหามลภาวะ หรือ ส่งผลกระทบต่อประชาชน อำเภอแม่สอดไม่เหมือนพื้นที่ชายแดนจังหวัดอื่นๆ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ มาตลอด 30 – 40 ปี ด้วยศักยภาพของพื้นที่ และคนในพื้นที่ การประกาศเขตพัฒนาเศรษฐกิจมาทีหลัง แต่มา ณ วันนี้ คลังสินค้าเอกชนจำนวนมากย้ายไปอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น แต่ในเขตไทยยังไม่มีการแก้ไขปัญหา และโอกาสที่จะให้สินค้าส่งออกมีมูลค้ามากถึง 1 แสนล้านบาทนั้น คงยาก เพราะประเทศเมียนมา กำลังประสบปัญหาอุทกภัย ทำให้สินค้าไปไม่ได้ หรือไปด้วยความลำบาก
