กระบี่-คืบหน้าแม่ค้าลูกชิ้น ถูกกดยกเลิกรับเงินเยียวยา 5 พันบาท หลังไม่จ่ายค่าจ้าง 300 บาทให้คนที่ช่วยลงสมัครให้ ล่าสุดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ รวบรวมหลักฐานส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังดำเนินการตรวจสอบแล้ว เตือนไม่ควรส่งเอกสารส่วนตัวให้ผู้อื่นสมัครให้ และให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการ
จากรณี่นางสาวปิยภรณ์ สุปันตี อายุ 30 ปี อาชีพสามล้อตระเวนขายลูกชิ้น อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.6 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ภายหลังจากที่ถูกแอบกดสละสิทธิ์รับเงินเยียวยา 5 พันบาท ในงวดที่สอง ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว โดยที่ผ่านมาได้ส่งบัตรประชาชนและหมายเลขบัญชีธนาคารให้ นางสาวเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นหลานของสามี ช่วยลงทะเบียนให้ และได้รับเงินเยียวยาในงวดแรกไปแล้ว 5 พันบาท และนำมาลงทุน ซื้อลูกชิ้น และเครื่องดื่มมาขาย และใช้จ่ายในครอบครัว เชื่อว่านางสาวเอ เป็นคนที่กดสละสิทธิ์อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ นส.เอ ได้ ส่งข้อความมาขอระหัส OTP ก่อนที่จะถูกตัดสิทธิ์ ที่ผ่านมาพยายามติดต่อนส.เอแต่ติดต่อไม่ได้ ส่วนสาเหตุ คาดว่า นส.เอ ไม่พอใจที่ตนยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างลงทะเบียนให้จำนวน 300 บาท ซึ่งตนรับปากว่าจะจ่ายในงวดต่อไป เพราะงวดนี้เอาเงินมาลงทุนหมดแล้วจึงไม่มีเงินจ่าย
ความคืบหน้าวันที่ 12 พ.ค.63 นายสมปอง รัตนะ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กรณีของนางสาวปิยภรณ์นั้น ได้เข้ามาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ร้อง ได้ขอความช่วยเหลือ จากเพื่อนบ้าน ให้สมัครลงทะเบียน ในเว็บไซด์เราไม่ทิ้งกันเพื่อขอรับเงินเยียวยา 5 พันบาท จากรัฐบาล เนื่องจากไม่มีความเข้าใจในการสมัคร ซึ่งรัฐบาลก็ได้อนุมัติเงิน 5 พันในงวดแรกไปแล้ว หลังจากนั้นคาดว่ามีความผิดใจกัน เพื่อนบ้านที่ลงสมัครให้จึงได้เข้าไปกดขอสละสิทธิ์รับเงินเยียวยา ทำให้เสียสิทธิในงวดถัดไป ซึ่งหลังจากได้รับการร้องเรียน ก็ได้แนะนำให้ผู้ร้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานนในท้องที่ และนำเอกสารหลักฐานต่างๆมายื่นที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งจะได้รวบรวมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแจ้งไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินการเยียวยาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปผู้ขอรับสิทธิรับเงินเยียวยา ให้คนอื่นสมัครให้นั้น หากไม่มีความเชื่อใจกันก็ไม่ควรให้เอกสารหลักฐาน หรือระหัส OTP อาจจะเกิดปัญหาได้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนมาขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม หรือให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการช่วยเหลือได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีประชาชนมาให้บริการ
ขณะที่นส.ปิยภรณ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนไปแจ้งลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.ปลายพระยา ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาเรื่องคู่กรณี แต่เพื่อต้องการที่ได้รับสิทธิ์ รับเงินในงวดต่อไป และยินดีที่จะจ่ายค่าลงสมัครให้ แต่ตอนนี้ตนก็ไม่มีเงินเลย
