ฉะเชิงเทรา – ปลดล็อค ลูกสาวแม่ป่วยโควิดตาย ให้เข้าขายอาหารในโรงงานได้แล้ว ขณะผู้แทนทูตไต้หวันลงพื้นที่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเองพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยันโรงงานปลอดเชื้อ หลังการตรวจชิ้นเนื้อปอด 4 แล็บ ผู้ตายไม่มีพันธุกรรมโคโรนา ขณะที่การตรวจหาเชื้อจากพนักงานกว่า 200 ชีวิตในโรงงาน ยันไม่มีใครติดเชื้อด้วยเช่นกัน ด้านตัวแทน สสจ.อ้ำอึ้งปัดตอบคำถามสื่อ ถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบรุนแรงต่อครอบครัวและสังคม ทั้งยังบานปลายไปสู่สถานประกอบการ
วันที่ 12 พ.ค.63 เวลา 11.30 น. ที่บริษัทไท้เชิ่งชิ่น เมทัล อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 176/1 ม.7 นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ซ.7 ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ตะแกรงเหล็ก และเคสคอมพิวเตอร์สัญชาติไต้หวัน ได้มีผู้แทนเอกอักราชทูตไต้หวัน ประจำประเทศไทย นายจาง เจิ้น กั๋ว รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป นาสุจิตตรา ลาภธีรวุฒิ ตัวแทนสมาคมการค้าไทยไต้หวัน
พร้อมด้วยตัวแทนจากสำนักงานองค์การบริหารส่วน จ.ฉะเชิงเทรา (อบจ.) หน่วยงานผู้ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 ตัวแทนจากสำนักงานสาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา นายอำเภอแปลงยาว ผอ.สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายในห้องประชุมชั้น 2 อาคารสำนักงานของบริษัท
โดยมีนายจัน ซิ หลง (MR.Jan Tzu Long) เจ้าของกิจการและผู้ก่อตั้งโรงงาน และนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ผู้ร่วมสังเกตการณ์ เดินทางมาแถลงข่าวเพื่อยืนยันว่า สถานประกอบการแห่งนี้เป็นสถานที่ปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด 19 หลังจากได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อต่างๆ ทั้งสื่อโซเชียล และสื่อกระแสหลักว่า
โรงงานแห่งนี้มีผู้ที่ป่วยด้วยโรคโควิด 19 เสียชีวิต และมีการแถลงยืนยันผลโดย ศบค. ในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีการแถลงยืนยันซ้ำจาก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันที่ 10 เม.ย.63 ด้วย ว่ามีแม่ค้าอาหารภายในโรงอาหารของโรงงานแห่งนี้ เป็นหญิงวัย 43 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรค SLE (แพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง) ติดเชื้อโคโรนา เสียชีวิตแบบก้ำกึ่ง จนทำให้คู่ค้าของบริษัทไม่สั่งซื้อสินค้า และไม่มามีปฏิสัมพันธ์หรือเข้ามาติดต่อทางการค้ากับโรงงานแห่งนี้เลย
โดย นายเอกนฤน อาภาเกียรติคุณ ผู้จัดการโรงงาน กล่าวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า นอกจากผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อโรงงานที่ต้องหยุดกิจการเป็นเวลา 3 วันแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อพนักงานภายในโรงงานอีกกว่า 200 ชีวิต ที่ต้องหยุดงานเพื่อตรวจหาเชื้อและกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน อีกทั้งยังลุกลามไปจนถึงครอบครัวของพนักงาน ซึ่งมีสามีหรือภรรยาทำงานอยู่ในโรงงานอื่นๆ ภายในนิคมฯ แห่งนี้ ต่างต้องพลอยถูกสั่งให้กักตัวและต้องหยุดงานไปด้วย 14 วัน
ขณะเดียวกันสำหรับครอบครัวของแม่ค้าขายอาหารในโรงงานนั้น ได้ถูกสั่งให้หยุดขายมาเป็นเวลานานถึงกว่า 1 เดือนแล้ว และล่าสุดทางโรงงานพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้อนุญาตให้ทางครอบครัวของผู้ค้ารายนี้กลับเข้ามาขายอาหารในโรงอาหารของโรงงานได้แล้ว ในสัปดาห์นี้เป็นวันแรก หลังจากไม่มีการตรวจพบเชื้อทั้งจากครอบครัวของผู้เสียชีวิต และพนักงานภายในโรงงานทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพร้อมสื่อมวลชนหลายแขนง ได้พยายามที่จะซักถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น ในการตรวจหาเชื้อ หรือวิเคราะห์ผลการตรวจ ตลอดจนการวินิจฉัยชี้ชัดเพื่อยืนยันโรค ที่มีแนวโน้มว่าอาจจะผิดพลาดนั้น มีสาเหตุมาจากอะไร และจะมีแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร รวมไปถึงจะมีการเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุด
แต่กลับถูก นพ.กสิวัฒน์ ศรีประดิษฐ์ รอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงว่า ตนเองนั้นเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ในระดับล่างเล็กๆ ที่ไม่สามารถที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้
–สังคมรังเกียจ แม่ป่วยโควิดตาย สาววอนขอความเป็นธรรมสังคม
