สุดตื่นเต้น “นากทะเล” สัตว์ใกล้สูญพันธ์ุโผล่ชายหาดเกาะระนอง
ระนอง – นายปิยธนา ทองเหลือ ชาวบ้าน จ.ระนอง เจ้าของธุรกิจรายย่อยค้าสินค้าโอท็อป และเจ้าของอู่ซ่อมรถปิยธนาเซอร์วิส เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนว่า มีคนพบเห็นนากทะเลที่เกาะพยาม จ.ระนอง เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และได้โพสต์ภาพดังกล่าว พบว่ากลุ่มเพื่อน ๆ ทั้งในและต่างจังหวัดให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนากทะเลถือว่าเป็นสัตว์ทะเลหายาก ใกล้สูญพันธ์ุ หลายคนบอกว่านากเป็นสัตว์มงคล หากพบเห็นที่ใด สถานที่แห่งนั้นจะเจริญรุ่งเรือง
แสดงว่าเป็นที่อุดมสมบูรณ์และจะเกิดสิ่งดี ๆเกิดขึ้น ตามความเชื่อของคนโบราณ จึงพยายามตรวจสอบข่าว จนทราบว่า ต้นตอของข่าวมาจากเจ้าของ ‘ทรายทองรีสอร์ท’ บนเกาะพยาม ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Jutharat Ladkeaw เป็นเจ้าของภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เป็นผู้ที่พบเห็นนากทะเลด้วยตัวเอง บริเวณชายหาดหน้ารีสอร์ท จึงแอบดูและนำกล้องมาถ่ายภาพเก็บไว้ได้ ซึ่งถือว่าภาพดังกล่าวสร้างความยินดี และมีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะคนระนองที่รักธรรมชาติ ถือว่าข่าวนี้คือสิ่งที่มีความสุขที่สุด และอยากจะเห็นเป็นอย่างมากเนื่องจากที่ผ่านมา เกาะพยาม จ.ระนอง ถือเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมาก จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว จึงเริ่มเกิดธุรกิจการท่องเที่ยวขึ้น จนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกาะพยามได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว รีสอร์ทจำนวนมากเกิดขึ้น สาธารณูปโภคต่าง ๆ ถูกก่อสร้างขึ้นบนเกาะ ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะจำนวนมาก
จนหลายคนหวั่นเกรงว่า ธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ ทั้งบนเกาะและในทะเลรอบ ๆ เกาะ จะเสียหายไป แต่เมื่อชาวบ้านพบว่ามีฝูงนากทะเลอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่เกาะสงบ เพราะวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ต้องปิดเกาะ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปพลุกพล่าน ทำให้นากทะเลซึ่งอาศัยในในมหาสมุทรแปซิฟิก หวนกลับมายังเกาะพยาม แสดงให้เห็นว่าเกาะพยามยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ จะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวได้ อีกทั้งจะเป็นสิ่งเตือนใจให้ทั้งชาวบ้านบนเกาะ ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาหันมารักษาและให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้มากขึ้น
Jutharat Ladkeaw เจ้าของรีสอร์ท บนเกาะพยาม และเจ้าของภาพที่ถ่ายได้ ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า สุดดีใจและตื่นเต้นกับสิ่งที่พบเห็น “ไม่เคยสบายใจและฟินอะไรแบบนี้มาก่อน เช้า ๆ เงียบ สงบ หาดที่ไม่มีฝรั่งมาอาบแดด แต่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแฟมิลี่ กลุ่มใหม่มาอาบแดดแทน”
อนึ่ง นากทะเล (อังกฤษ: Sea otters; ชื่อวิทยาศาสตร์: Enhydra lutris) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล ประเภทหนึ่งโดยอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก ในวัยเจริญพันธุ์จะมีน้ำหนักประมาณ 14–45 กิโลกรัม (31–99 ปอนด์) นากทะเลเป็นสัตว์ในวงศ์พังพอน (Mustelidae) ชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเลที่มีขนาดเล็กที่สุดอีกด้วย นากทะเลนั้นไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลทั่วไปเพราะมีฉนวนกันความร้อนด้วยขนที่หนาแน่น จึงทำให้นากทะเลสามารถหาอาหารในทะเลเป็นเวลานาน ๆ ได้
นากทะเลจะอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง โดยจะดำดิ่งสู่พื้นทะเลเพื่อหาอาหาร อาหารที่ชอบ คือ สาหร่ายทะเล (ถ้าเป็นสาหร่ายเคลท์จะชอบมาก) เม่นทะเล หอยต่าง ๆ กุ้งบางชนิด และปลาบางชนิด นอกจากนี้นากทะเลยังเป็นสัตว์ที่สามารถวัดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ได้อีกด้วย ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพฤติกรรมการกินอาหารของนากทะเล ที่ใช้หินทุบเปลือกหอยบนหน้าอกตัวเองนั้นเป็นพฤติกรรมที่มีมานานเป็นระยะเวลานับหลายล้านปี ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยถือว่าเป็นพฤติกรรมการกินอาหารที่พัฒนาขึ้นมาจากการกินหรือหาอาหารทั่วไปของสัตว์โลก และเป็นสัตว์ทะเลชนิดแรกที่มีพัฒนาการเช่นนี้ โดยการสังเกตพฤติกรรม แม้แต่ลูกนากทะเลกำพร้าในสถานที่เลี้ยงก็ยังพบว่ามีพฤติกรรมเช่นนี้
ในอดีตจำนวนนากทะเลอยูที่ประมาณ 1,000–2,000 ตัวเท่านั้น เพราะถูกล่าอย่างหนักในปี ค.ศ.1741–1911[3] ต่อมามีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามล่า และให้อนุรักษ์นากทะเล จึงส่งผลให้จำนวนนากทะเลเพิ่มขึ้นเป็น 150,000–300,000 ตัว นับเป็นความสำเร็จในการอนุรักษ์นากทะเล แต่ปัจจุบันจำนวนนากทะเลได้ลดลงอีกครั้ง นากทะเลจึงเป็นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเลที่ใกล้สูญพัน
ขอบคุณข้อมูลภาพจากเฟซบุ๊ก : Jutharat Ladkeaw
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: