นครนพนม – หนังคนละม้วน เหยื่อสาวกระบะซิ่งยันไม่ได้วิ่งตัดหน้า วอนปฏิบัติตามกฎจราจร จุดเกิดเหตุเขตชุมชนตายเจ็บนับไม่ถ้วน เพราะความประมาทขับเร็ว
กรณี นายกิตติศักดิ์ คิดอ่าน อายุ 30 ปี เป็นช่างซ่อมเครื่องจักรกลของห้างหุ้นส่วนแห่งหนึ่ง ในตัวอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน บพ 7373 กาฬสินธุ์ พุ่งชนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีบรอนซ์ ทะเบียน กนย 3 นครพนม ที่มี นางสาวบุญญาพร พางาม หรือน้องมิลล์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนบ้านผึ้งวิทยาคม เป็นคนขับ และ นางเกี้ยน คำเพชรดี อายุ 68 ปี ผู้ซ้อนท้าย บริเวณทางสี่แยกบ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เป็นเหตุให้นางเกี้ยนเสียชีวิตคาที่ ในสภาพข้อเท้าซ้ายขวาขาด กระดูกตามร่างกายหักหลายท่อน ส่วนน้องมิลล์ก้านคอร้าว กระดูกซี่โครงด้านซ้ายหักเสียบปอด แพทย์โรงพยาบาลนครพนม ได้ผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน จนพ้นขีดอันตราย ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
คืบหน้าล่าสุด วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 144 หมู่ 8 บ้านเทพพนม ต.บ้านผึ้ง ซึ่งมีสภาพคล้ายกระต๊อบอยู่หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง และเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนางเกี้ยน มีญาติลูกหลานและเพื่อนบ้านมาร่วมงานจำนวนมาก
นายอภิชัย กิมา อายุ 44 ปี ลูกชายของผู้ตายที่ทำงานก่อสร้าง เล่าวันเกิดเหตุมีคนโทรมาบอกว่าแม่ถูกรถยนต์ชนตายที่สี่แยกบ้านนาโพธิ์ จึงรีบมาดูเห็นสภาพศพแม่แล้วเข่าทรุด เพราะถูกอัดก๊อปปี้กับเสาจราจรตรงเกาะกลางถนน ส่วนคนขับพูดจาอ้อแอ้คล้ายคนเมา ตนทำใจไม่ได้ที่แม่ต้องมาตายในสภาพนี้ ซึ่งผู้ใช้รถใช้ถนนควรมีความระมัดระวัง เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นเขตชุมชน มีป้ายจำกัดความเร็วติดไว้ชัดเจน แต่มีบางคนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร จึงเกิดเหตุสลดและสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป
ด้าน นางเพลิน ลาจันทร์ อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ของน้องมิลล์ เปิดเผยว่าลูกสาวพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของหมอและพยาบาลในห้องไอซียูอีกระยะหนึ่ง หลังแพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจทราบว่ายายตายก็ปล่อยโฮออกมา และเล่าเหตุการณ์พอจับใจความได้ว่า ขี่รถ จยย.จากบ้านเทพพนมมาตลาดบ้านนาโพธิ์ที่อยู่ห่างราว 2 กม. เพื่อพายายไปเช็คเงินที่ตู้เอทีเอ็ม บริเวณร้านค้าข้างตลาดสด เพราะหลานส่งมาให้จากต่างจังหวัด เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกบ้านนาโพธิ์ หรือเรียกว่าทางแยกศูนย์อพยพชาวลาวในอดีต ก็จอดรถรอยูเทิร์น ไม่ได้วิ่งตัดหน้าตามที่คู่กรณีอ้างแม้แต่น้อย ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วสูง เบรกเสียงดังสนั่นมีรอยครูดของยางรถยาวกว่า 10 เมตร พุ่งชนรถ จยย.สองยายหลานอย่างจัง ลูกสาวยืนยันว่าไม่ได้ตัดหน้าแต่จอดรอกลับรถในจุดที่ทางหลวงกำหนดทุกอย่าง สำหรับศพนางเกี้ยนจะมีพิธีฌาปนกิจในวันนี้(18 พค.) ณ ป่าช้าวัดดอนสวรรค์ บ้านเทพพนม
ขณะที่นางสาวอ้อม เจ้าของร้านชำบริเวณสี่แยก เปิดเผยว่าตรงนี้มีอุบัติเหตุประจำทั้งเจ็บและตายหลายศพ จนจำไม่ได้ว่าเกิดมาแล้วกี่ครั้ง อยากให้ผู้ใช้รถเพิ่มความระมัดระวัง เพราะเป็นเขตชุมชนมีทั้งคนและรถพลุกพล่าน ทางที่ดีปฏิบัติตามกฎจราจร
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณสี่แยกทางเข้าศูนย์อพยพลาว บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตตนครพนม กู้ชีพ 1669 รพ.ค่ายพระยอดเมืองขวาง และรถกู้ชีพ อบต.บ้านผึ้ง
ที่เกิดเหตุถนน 4 เลน ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 สายนครพนม-สกลนคร จุดยูเทิร์นฝั่งขาออกตัวเมือง พบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว สภาพหน้ารถพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนรถปลิวกระจัดกระจาย หงายท้องตะแคง โดยมีนายกิตติศักดิ์ คิดอ่าน อายุ 30 ปี รับว่าเป็นคนขับ ยืนรอให้การในที่เกิดเหตุ
ใกล้กันพบรถ จยย. สภาพรถพังยับเยินล้อหน้าพับเป็นเลขแปด ตัวรถขาดครึ่ง ใกล้กันพบศพนางเกี้ยน คำเพชรดี นอนหงายอยู่ข้างป้ายสัญญาณบอกทาง ข้อเท้าซ้ายและขวาขาด ส่วนคนขับรถ จยย.คือน้องมิลค์ หลานสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส รถกู้ชีพนำตัวส่งรักษาที่ รพ.นครพนม
สอบสวนเบื้องต้นนายกิตติศักดิ์อ้างว่า หลังจากซ่อมรถบดและรถเกรดของบริษัทซึ่งมารับเหมาก่อสร้างถนนทางหลวงสายดังกล่าว และกำลังมุ่งหน้ากลับ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ขณะมาถึงที่เกิดเหตุมีรถ จยย. เลี้ยวตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด จึงพุ่งชน ก่อนรถจะทับร่างนางเกี้ยนเสียชีวิตและหลานสาวบาดเจ็บดังกล่าว
