ที่จ.ชลบุรี นายอำเภอศรีราชา นำกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ลุยสนามซ้อมโมโตครอส จับเจ้าของสนาม คนโพสต์เฟซบุ๊กโดนด้วย
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชลบุรี-พัทยา กับ “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการมั่วสุมประลองแข่งรถ ภายในสนามซ้อมโมโตครอส พื้นที่กว่า 70 ไร่ หมู่บ้านโปร่งสะเก็ด ม.3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นอกจากนี้ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวน จัดโปรโมชั่น จึงได้สั่งการให้ นายดงพล รุจิธรรมธัช นายอำเภอศรีราชา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปพนพัชร์ ใบยา ผกก.สภ. บ่อวิน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน เข้าตรวจสอบสนาม
จากการเข้าตรวจค้นจับกุม พบนายปิยะพงษ์ สงค์สุข อายุ 37 ปี แสดงตัวเองเป็นเจ้าของสนาม ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ ภายในพบรถจักรยานยนต์ วิบาก จำนวน 10 คัน จอดอยู่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพถ่ายจากเฟซบุ๊กของสนามดังกล่าว ว่ามีการจัดกิจกรรมซ้อม ในบริเวณดังกล่าวและมีพฤติกรรมการแข่งรถจริง เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 ว่าด้วย การห้ามชุมนุม มั่วสุม ณ ที่ใดๆ ที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และ ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ยังพบตัว นายจอร์ท มนต์อยู่พระเนา อายุ 45 ปี เป็นคนจัดกิจกรรมและนำภาพดังกล่าวลงเผยแพร่บนเฟสบุ๊ค และนายอรรถพล ทองทา อายุ 27 ปี เป็นคนถ่ายภาพ
ด้านนายปิยะพงษ์ สงค์สุข ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดสนามให้ซ้อม รถจักรยานยนต์วิบากจริง โดยมี นายจอร์ท มนต์อยู่พระเนา อายุ 45 ปี เป็นคนจัดกิจกรรมและนำภาพดังกล่าวลงเผยแพร่บนเฟซบุ๊ก และนายอรรถพล ทองทา อายุ 27 ปี เป็นคนถ่ายภาพ ทั้งนี้ตนเองก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากได้ทราบข่าวมีการปลดล็อก ของจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ในวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนเองก็คิดว่าสนามซ้อม สามารถเปิดได้ จึงได้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ราย ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดชลบุรี ที่สั่งปิดสนามกีฬาทั้งของรัฐและเอกชน ซึ่งมีโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมรถจักรยานยนต์ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในขณะที่ผู้ขับขี่ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมการแข่งขันในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จะมีการออกหมายเรียก พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหามั่วสุมหรือชุมนุมกัน ซึ่งเป็นการทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชกำหนด ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 18 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
