อุบลราชธานี – 3 ผู้เสียหายหนุ่มอุบลโร่แจ้งความ ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตำรวจ รีดทรัพย์เสียหายร่วมแสน ตรวจประวัติหมายจับเพียบ พรากผู้เยาว์ ฉ้อโกง กรรโชกทรัพย์
ร.ต.อ.ปกรรษวัต เณรแขก พนักงานสอบสวน พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในปั้มน้ำมัน ปตท.ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ถนนแจ้งสนิท ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี หลังมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความถูกมิจฉาชีพแสดงตัวเป็นหญิงสาวไซด์ไลน์ ติดต่อเข้าทางแอพพลิเคชั่น ทวิตเตอร์ เพื่อหาหุ้นส่วนทำธุระกิจอะไหล่รถ / ขายประเวณี / พูดคุย / จนมีการนัดเจอตามสถานที่สาธารณะ โดยออกอุบายบอกเหยื่อส่งคนขับรถมารับ ก่อนอ้างตัวเป็นตำรวจกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหายสูญเงินร่วมแสน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9,16 ,18 พ.ค.63
นายพงษ์ (นามสมมุติผู้เสียหาย) อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้าง เปิดเผยว่ากรณีที่ตนตกเป็นผู้เสียหายนี้เริ่มมาจาก มีผู้หญิงรายหนึ่งทักเข้ามาในทวิตเตอร์ของตนชักชวนพูดคุยในทำนองนัดไปร่วมหลับนอนด้วยกัน จากนั้นได้เปลี่ยนการคุยจากทวิตเตอร์ ไปคุยในแอพพลิเคชั่นไลน์ หญิงรายนี้ก็ได้พยายามพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ผ่านการแชทไลน์ ก่อนจะตกลงนัดเจอกันที่ห้างเซ็นทรัลโดยอ้างว่าจะให้คนขับรถมารับ
เมื่อถึงเวลานัดได้มีรถยนต์กระบะฟอร์ด สีขาว มีนายสมศักดิ์ พรหมเสนา อายุ 38 ปี อดีตตำรวจแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคกลาง ชาวอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ (ทราบชื่อภายหลัง) ขับเข้ามาอ้างว่าเพื่อนสาวให้มารับไปพบ แต่เมื่อขึ้นรถนายสมศักดิ์ ได้ชวนคุยเรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว ก่อนจะโชว์บัตรแสดงตัวเป็นตำรวจ กำลังติดตามสัญญาณมือถือคนร้ายกระทำความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ โดยบัญชีทวิตเตอร์ของตนได้มีการกระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตราต่างๆ มีการเปิดอัตราโทษที่จะได้รับให้ดู
แต่หากไม่อยากดำเนินคดีต้องมีค่าใช้จ่าย 40,000 บาท ในการดึงเรื่องออก ด้วยความกลัวและไม่เข้าใจตนจึงได้หยิบยืมญาตินำเงิน 40,000 บาท มาจ่ายให้นายสมศักดิ์ จากนั้นนายสมศักดิ์ได้บอกให้ตนลบทวิตเตอร์ออกก่อนจะแยกย้าย หลังเกิดเหตุได้ปรึกษาญาติแล้วคาดว่าจะโดนหลอก จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
หลังจากที่ตนเข้าแจ้งความแล้วพบว่ายังมีผู้เสียหายที่โดนในลักษณะเดียวกันอีก 2 ราย ความเสียหายร่วมแสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันวางแผนสมัครบัญชีทวิตเตอร์ขึ้นมาใหม่เพื่อติดต่อกับมิจฉาชีพรายนี้อีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการนัดพบกันที่ห้างเซ็นทรัลเช่นเดิม เมื่อถึงเวลานัดมีรถกระบะฟอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียนปลอม 8 กก 8981 กรุงเทพฯ ลักษณะตรงตามกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบนายสมศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่เข้ามาหาสายลับตามที่นัดไว้
สอบถามนายสมศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพวงจรปิดที่ก่อเหตุจริง สาเหตุที่ทำเพราะต้องการเงินไปจ่ายค่างวดรถที่ค้างไว้ 4 เดือน ไม่มีงานทำเพราะลาออกจากตำรวจเนื่องจากถูกกลั่นแกล้งให้ต้องคดีเสียเงินไปจำนวนมาก สุดท้ายศาลยกฟ้อง ด้วยความที่เป็นตำรวจเคยทำงานด้านไอที จึงได้เข้าไปสร้างบัญชีทวิตเตอร์ในกลุ่มของผู้ที่ต้องการซื้อบริการทางเพศเอาไว้
เมื่อเหยื่อหลงเข้ามาพูดคุย แล้วมีการส่งภาพของลับมาให้ตนก็จะมีการนัดเจอกันแล้วแสดงตัวเป็นตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหาเหยื่อกระทำความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ผู้เสียหายจะต่อรองขอเคลียร์ไม่ให้เอาเรื่องโดยการเสนอเงินไม่ให้ดำเนินคดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัตินายสมศักดิ์พบว่า มีหมายจับ 3 หมาย แยกคดีพรากผู้เยาว์ สน.ประตูน้ำ ปี 2563 (ยังจับไม่ได้) คดี กรรโชกทรัพย์ สน.พหลโยธิน ปี 2560 (ยังจับไม่ได้) และ คดีฉ้อโกง สภ.ด่านขุนทด ปี 2559 (จับแล้ว) สำหรับเคสล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานายสมศักดิ์ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (ทะเบียนรถ) กรรโชกทรัพย์ สำหรับผู้ใดเคยตกเป็นผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
