นครพนม – คืบหน้ากรณี นายบุญฤทธิ์ คำพิมพ์ หรือเป อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 2 บ้านเมืองเก่า ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม อาชีพหาปลาในแม่น้ำโขง ถูกฟ้าผ่าจนร่วงตกจากเรือคู่ชีพจมน้ำหายไปต่อหน้าเพื่อนๆ ที่หาปลาด้วยกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 เวลา 15.30 น. ซึ่งการค้นหาร่างของผู้ตายมีนักประดาน้ำชุดจู่โจมใต้น้ำ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) กู้ภัยสวางนาวาธาตุพนม และ กู้ภัยศรีสัตตฯ ผลัดเปลี่ยนกันงมหาร่างของผู้เสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ถูกฟ้าผ่า และวันที่ 26 พฤษภาคม ตลอดทั้งวัน ก็ไม่มีวี่แววใดๆ แม้ญาติจะทำพิธีตามความเชื่อทุกอย่างแล้วก็ตาม กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 27 พฤษภาคม ศพของนายบุญญฤทธิ์หรือเปก็ลอยขึ้นเหนือน้ำ ในสภาพคว่ำหน้าสวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงกีฬาสีดำ โดยห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร จากการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่บริเวณด้านหลังมีรอยปื้นแดงเป็นทางยาว สันนิษฐานอาจจะเป็นรอยสายฟ้าฟาดที่แผ่นหลัง ซึ่งญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงมอบศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดเมืองเก่า ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายบุญญฤทธิ์ สอบถามนางสุดใจ ลาโสภา อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 240 หมู่ 2 บ้านนามูลฮิ้น ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่ามีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ตนเป็นคนที่หนึ่งและผู้ตายเป็นน้องชายคนที่สอง แม่ผู้ให้กำเนิดนั้นเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อได้บวชพระปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดแห่งนี้ วันเกิดเหตุญาติโทรศัพท์มาบอกว่าน้องชายถูกฟ้าผ่าตาย รีบเดินทางมาถึงก็เห็นคนมุงดูอยู่เต็มตลิ่งที่อยู่หลังสวนสมุนไพรบ้านท่าค้อ
ด้าน น.ส.พรทิพย์ คำพิมพ์ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 26 หมู่ 2 บ้านเมืองเก่า ปัจจุบันทำงานโรงงานอยู่จังหวัดชลบุรี เล่าว่าพี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัว มีรายได้จากการหาปลาในแม่น้ำโขงเป็นหลัก กิจวัตรประจำวันคือจะออกจากบ้านในช่วงเช้ามืด กลับเข้าบ้านก็พระอาทิตย์ตกดินทุกวัน โดยมีเมียไปส่งข้าวให้กินที่ท่าปลา ซึ่งพี่ชายชาวประมงยอมรับกันว่าเก่งในด้านการหาปลามากกว่าคนอื่น
ขณะที่ น.ส.อ่อนจิรา ยะสุรีย์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 26/2 หมู่ 2 บ้านเมืองเก่า มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านเมืองเก่า และเป็นน้องสะใภ้ของผู้ตาย กล่าวว่าหลังเกิดเหตุก็รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ระดมชาวบ้านออกเรือค้นหาร่างผู้ตายตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ส่วนด้านความเชื่อของคนลุ่มแม่น้ำโขงก็ทำพิธีขอขมาต่อแม่คงคา ดลบันดาลให้พบร่างนายบุญญฤทธิ์โดยเร็ว กระทั่งเช้าของวันที่ 27 พฤษภาคม ชาวบ้านก็นำเรือออกหาศพกันหลายลำ โดยแต่ละลำนั่งกันไป 3-4 คน ลำที่พบอยู่กลางแม่น้ำโขง เห็นร่างนายบุญญฤทธิ์ลอยไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก จึงนำเรือเข้าเทียบใช้เชือกมัดร่างดึงเข้าหาฝั่ง พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว
ด้าน พระครูกันตปุญญรังสี อายุ 73 ปี พรรษาที่ 26 เจ้าอาวาสวัดเมืองเก่า ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายเรียนรู้การหาปลาจากตนจนเก่งกว่าพ่อเสียอีก คนอื่นหาปลาได้ปีละ 4-5 หมื่นบาท แต่ลูกชายจะได้มากกว่าผู้อื่นเสมอ จนสามารถส่งลูกเรียนจบระดับปริญญาทุกคน นับเป็นการสูญเสียเสาหลักของครอบครัว ต่อจากนี้นี้ญาติพี่น้องก็ต้องพึ่งพาตนเอง ส่วนการตายเป็นธรรมชาติที่ทุกคนต้องพบเจอ และทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนนายบุญญฤทธิ์จะเสียชีวิตไม่มีลางสังหรณ์ หรือฝันร้ายใดๆทั้งสิ้น
