สงขลา – สะเดา ตำรวจตระเวนชายแดน 437 รวบสาววัย 30 ปีเจ้าของเฟซบุ๊ก “ พิ๊นิ สายเขียว ( มายัน ) ” ลักลอบขายใบกระท่อมสดให้กับลูกค้า โดยการส่งผ่านทางผู้บริการรับส่งพัสดุ พบลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลางและภาคเหนือ มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันละ 2 พันบาท สารภาพนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ
30 พ.ค. 63 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 ว่าที่ พ.ต.ต.สุริวงศ์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437 ร.ต.ท.ไกรสร ล่องลอย หน.ข่าวลับ กก.ตชด.43 และเจ้าหน้าที่ ชปข.ร้อย ตชด.437 ร่วมกันจับกุมตัวนางสาว ศิรินทรา ( หรือจ๋า ) ขำสุวรรณ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 21 / 32 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายในบ้านเช่า ซ. 2 / 1 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
ภายหลังจากการสืบสวนพบว่านางสาวศิรินทรา หรือจ๋า ขำสุวรรณ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายใบพืชกระท่อมสด ผ่านทางเฟซบุ๊คชื่อ พิ๊นิ สายเขียว ( มายัน ) โดยขณะที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมพบหน้าบ้านที่เกิดเหตุประตูเหล็กแบบยืดถูกเปิดอยู่ และสังเกตเห็น นางสาวศิรินทรา หรือจ๋า ขำสุวรรณ กำลังนั่งบรรจุใบพืชกระท่อมสดลักษณะเป็นมัดๆ ลงในกล่องไปรษณีย์
จึงทำการควบคุมตัวพร้อมขอตรวจสอบภายในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่พบใบกระท่อมสดเป็นมัดๆวางอยู่ในห้องเป็นจำนวนมาก รวมน้ำหนัก 83 กก. พร้อมกล่องกระดาษของไปรษณีย์จำนวน 20 กล่อง ซึ่งบางกล่องมีรายชื่อลูกค้าติดเรียบร้อย เครื่องชั่งตราสิงห์ดาวขนาด 60 กก. 1 เครื่อง เทปกาว 3 ม้วน จึงได้ทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนางสาว ศิรินทรา หรือจ๋า ขำสุวรรณ บอกว่าตนเองรับใบกระท่อมสดมาจากนายบัง ( ไม่ทราบชื่อ สกุลจริง ) เป็นชาวปาดังเบซาร์ ซึ่งนำใบกระท่อมสดมาส่งให้ในราคา กก.ละ 350 บาท ซึ่งตนเองส่งขายให้กับลูกค้าราคา กก.ละ 800 บาท มีรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2 พันบาทต่อวัน โดยลูกค้าอยู่ในต่างจังหวัดจะส่งให้ผ่านทางไปรษณีย์ และขนส่งเอกชน 
ส่วนสาเหตุที่ต้องมาลักลอบค้าใบกระท่อม เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ ที่ตนเองได้กู้ยืมมาจากคนรู้จักกันหลายครั้งรวมเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลพ่อซึ่งป่วยเป็นวัณโรค แต่ตอนนี้พ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว แแต่หนี้สินยังอยู่จึงจำเป็นต้องทำ ส่วนสามีมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัวชน มีรายได้เพียงแค่ค่าใช้จ่ายในครอบครัวเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปาดังเบซาร์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ด้านว่าที่ พ.ต.ต.สุริวงศ์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437 บอกว่าขณะนี้เรามีรายชื่อกลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งจะประสานกับเจ้าหน้าที่ปลายทางในการตรวจสอบต่อไป สำหรับการลักลอบขนใบกระท่อมผ่านแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย พบว่ายังมีการลักลอบแม้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดในการตรวจตรา โดยเดือนที่ผ่านมาเราสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย รวมของกลางกว่า 3 พัน กก. ซึ่งกระนั้นก็มีเล็ดลอดออกมาได้ แต่นับว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
