เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ต.ค.61 ชาวบ้านในหมู่บ้านหนองศาลา หมู่ 10 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้มารวมตัวกันที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ซึ่งเป็นที่ทำการกลุ่มเกษตรชุมชนบ้านหนองศาลา เพื่อตั้งโต๊ะแถลงข่าว ไม่เอาน้ำเสีย หลังชาวบ้านได้ทำการสูบน้ำจากลำคลองเข้าไปในสวนแล้วทำให้ปลาตายลอยเป็นแพทั้งบ่อ
โดยนายวสันต์ จันทศร ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่เดือดร้อนก็บอกว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากผู้ประกอบการฟาร์มหมุปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำคลอง ที่ชาวบ้านต้องใช้น้ำในลำคลองทำการเกษตร จึงได้รวมตัวกันไปทำการปิดท่อเพื่อไม่ให้น้ำเสียไหลลงมา ก็ทำให้มีปัญหากับผู้ประกอบการเพราะเมื่อเราปิดท่อน้ำเสียก็จะเอ่อไปท่วมพื้นที่ของเขา โดยที่เขาไม่คิดว่าถ้าปล่อยน้ำเสียลงมาแล้วเกษตรกรอย่างพวกเราจะได้รับผลกระทบแค่ไหน เพราะเมื่อเราเก็บผักหมดแล้วก็จะสูบน้ำเข้าแปลงผักเพื่อให้น้ำท่วมแล้วให้ปลาที่เราเลี้ยงไว้ได้กินวัชพืช และทำให้แปลงผักสะอาด จากนั้นก็จะปล่อยน้ำออกและเริ่มปลูกผักใหม่ ซึ่งจะทำอย่างนี้ทุกครั้งหลังปลูกผักเสร็จ แต่ครั้งนี้ผลปรากฏว่าปลาที่เรามีการเลี้ยงไว้ตามแปลงผักนั้นลอยตายยกบ่อ ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว สาเหตุเพราะน้ำที่สูบเข้าไปนั้นเป็นน้ำเสีย ทำให้แปลงผักของคนอื่นก็ไม่กล้าที่จะสูบเข้าไป เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราสามารถจับปลาขายได้เงินมากกว่า 40,000 บาท เพื่อมาช่วยครอบครัวเพราะราคาผักก็ไม่ค่อยดี ก็หวังจะได้จับปลามาขายแล้วมีเงินมาเพิ่ม ซึ่งเราทำการเกษตรโดยเน้นเรื่องความปลอดภัย ได้มาตรฐาน GAP และที่นี่ก็เป็นแหล่งศึกษาดูงาน และได้รับคัดเลือกให้เป็นเกษตรแปลงใหญ่ด้านผัก ซึ่งเราพยายามทำในสิ่งดีๆให้กับทุกคนได้รับประทานแต่สิ่งดีๆของปลอดภัยจากสารพิษ แต่สิ่งที่เราได้รับกลับคืนมาคือน้ำเสีย เพราะน้ำคือปัจจัยหลักในการปลูกผัก ทำให้เราต้องมารวมตัวกันเพื่อแถลงข่าวในวันนี้ และอยากขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานให้มาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจัง เพราะเรื่องนี้มันเนิ่นนานมาแล้ว มีการคุยกัน ทำข้อตกลงกันแต่ก็ปฎิบัติกันไม่ได้ เราเกษตรกรอย่างเราจะไปพึ่งใครได้
ด้านนายสัญญา สนองค์ อายุ 63 ปี ประธานกลุ่มเกษตรชุมชนบ้านหนองศาลา ก็บอกว่า ไปร้องเรียนมาหลายหน่วยงาน แต่ก็มีการเกี่ยงกันเพราะอ้างว่าพื้นที่มันคาบเกี่ยวกัน จึงไม่มีใครเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ชาวบ้านจึงต้องเดือดร้อนอยู่อย่างนี้มาเกือบ 20 ปี แล้ว ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนั้นมากกว่า 1,000 ไร่ หน่วยงานที่ลงมาดูก็บอกว่าค่าของน้ำไม่เกินมาตราฐานชาวบ้านก็ต้องทนใช้น้ำเสียและมีกลิ่นเหม็นพ่วงมาด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนนายสิริวัฒน์ ลิ้มสกุล อายุ 53 ปี เจ้าของแปลงผักที่มีปลาตายลอยเป็นแพ ก็บอกว่าที่ผ่านมาก็จะสูบน้ำจากลำคลองเข้ามาแช่ในแปลงผักหลังจากเก็บผักหมดแล้ว เพื่อให้ปลาที่นำมาปล่อยไว้หลากหลายชนิดมากกว่าหมื่นตัว ได้กินเศษวัชพืช ซึ่งถือว่าเป็นการทำความสะอาดแปลงผักโดยอาศัยธรรมชาติ และหลังจากนั้นก็จะทำการสูบน้ำออก ส่วนปลาก็จะกลับไปอยู่ตามร่องสวน ทำอย่างนี้มาตลอดจนเมื่อปลาโตได้ที่ก็จะทำการจับไปขายก็จะได้เงินเพิ่มเป็นรายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัว แต่เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมาสูบน้ำในคลองเข้าแปลงผัก ผลปรากฎว่าวันต่อมาก็มีปลาตายลอยเป็นแพ ซึ่งสาเหตุมาจากน้ำเสียที่ผู้ประกอบการณ์ปล่อยลงมาในลำคลอง ทำให้ตอนนี้ครอบครัวขาดรายได้เพราะปลาทั้งตัวเล็กตัวใหญ่กว่า 10,000 ตัว ตายทั้งหมด และก็ไม่รู้ว่าจะไปร้องเรียนที่หน่วยงานเพราะเคยไปร้องมาหลายหนแต่เรื่องก็เงียบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: