ผอ.สนง.กองทุนหมู่บ้าน แนะ หมู่บ้านอื่น ศึกษากองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร อ.พบพระ จ.ตาก เป็นโมเดล มีสถานีจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ยังตั้งโรงงานผลิตน้ำดื่ม
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 คณะกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นำโดย นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เดินทางตรวจเยี่ยม และเป็นประธานเปิดงาน ‘โครงการผลิตน้ำดื่มชุมชน’ กองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร หมู่ที่ 5 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยมี นายอธิวัฒน์ ศุคระศักดิ์สิทธิ์ ประธานกองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร พร้อมด้วย คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประชาชนชาวไทยภูเขาหลายชนเผ่า ร่วมงาน ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ไปร่วมงาน เนื่องจากกองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร ได้รับการพัฒนาไปมาก เสมือนเป็นบริษัทเอกชนที่มีคุณภาพแห่งหนึ่ง แม้จะตรงกับช่วงการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนหมู่บ้านแห่งนี้
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร ก่อตั้งมานานแล้ว แต่ในส่วนของประชารัฐใกล้จะครบ 4 ปีแล้ว โดยรูปแบบพลังประชารัฐ เริ่มแรกก่อตั้ง มีงบประมาณจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน โครงการประชารัฐ 500,000 บาท เมื่อปี 2559 และมีร้านค้าประชารัฐ เป็นของกองทุนหมู่บ้าน วงเงิน 2 แสนบาท โดยตั้งเมื่อปี 2560 ต่อมา ปี 2561 กองทุนหมู่บ้านฯ ขยายตั้งปั๊มน้ำมัน วงเงิน 300,000 บาท และล่าสุดจัดสรรงบประมาณอีก 200,000 บาท ตั้งโรงงานผลิตน้ำดื่มชุมชน ทำให้มีมูลค่ารวม 4-5 ล้านบาท ปัจจุบัน มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร จำนวน 783 คน มีกิจการร้านค้าทั่วไป ปั๊มน้ำมัน และสินค้าพื้นเมือง สมาชิกทุกคนได้ใช้บริการ มีทั้งผลประโยชน์และเงินปันผลตอบแทน
“เรามีพนักงาน 9 คน และหลังจากโรงงานน้ำดื่มชุมชนเปิดบริการ จะมีพนักงานเพิ่มขึ้นอีก 1 คน มีเงินเดือน มีเงินปันผล เช่นเดียวกับสมาชิกที่ใช้บริการ และกรรมการของพวกเราทุกคน ที่มีส่วนร่วมกับร้านค้าชุมชน มีสิทธิเหมือนกัน กองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร มีลักษณะพิเศษ เพราะหมู่บ้านนี้ มีชาวเขาหลายเผ่าพันธุ์ ได้เข้ามาร่วมกันทำงาน เช่นพนักงานและกรรมการ มีชาวเขา 6 เผ่า เช่น เผ่าอาข่า ,ลาซู,ลีซอ, เย้า, เมี้ยง และม้ง รวมทั้งคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ด้วย“ ประธานกองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตรกล่าว และว่า ปัญหาการแพร่เชื้อโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน และบริการชุมชน พนักงานยังไปทำงานตามปกติ แม้เวลาลดลงตามสถานการณ์
ด้านนายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการ สทบ. กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง มีหลายแห่งทั่วประเทศ ที่บ้านร่มเกล้าสหมิตร ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพแห่งหนึ่ง สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ทุกคน และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล และมีชาวบ้านหลายเผ่าพันธุ์ก็ตาม แต่เกิดความร่วมมือกัน ทำให้มีความเข้มแข็ง และเรื่องเผ่าพันธุ์ไม่สำคัญ อยู่ที่ความร่วมมือความสามัคคีกันของประชาชน จึงอยากให้หมู่บ้านอื่นมาเยี่ยมดูงานที่กองทุนหมู่บ้านนี้ด้วย
ทั้งนี้ ขณะนี้กำลังรองบประมาณอีก 4 แสนล้านบาท จากรัฐบาล เพื่อสนับสนุนหมู่บ้านทั่วประเทศ
นายรักษ์พงษ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านชนบทมากนัก หมู่บ้านส่วนมากมีวิถีชีวิตของตนเอง ซึ่งต่างกับหมู่บ้านในเมือง ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่ทำงาน
ขณะที่ นางสาวสุนีย์ เชอมึกู่ สมาชิกกองทุนหมู่บ้านร่มเกล้าสหมิตร เผ่าอาข่า กล่าวว่า เป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ มาตั้งแต่ตอนก่อตั้ง เวลาซื้อสินค้าก็ได้อุดหนุนสินค้ากองทุนชุมชนมาตลอด และได้รับเงินปันผลปีละครั้ง รู้สึกดี และมีความพอใจในการบริการของกองทุนหมู่บ้านแห่งนี้
ล่าสุด คณะกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามโครงการอนุรักษ์ต้นน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ภายใต้โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2563 ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว หลังจากมีการโอนงบประมาณ 200,000 บาท สนับสนุนกองทุนหมู่บ้านห้วยมะพร้าว ตำบลแม่ตื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ที่นำงบประมาณไปจัดซื้อเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า และอุปกรณ์ในการติดตั้งกระจายไฟฟ้า ให้แก่กลุ่มหมู่บ้านของกองทุนหมู่บ้านห้วยมะพร้าว เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้มาเกือบ 200 ปี ทำให้มีความลำบากในการดำรงชีวิต ซึ่งการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำนี้ ผลที่ได้รับ คือ ประชาชนจำนวน 56 หลังคา ประมาณ 280 คน ได้รับประโยชน์
