รถตู้วิ่งระหว่างจังหวัดใกล้เคียง และรถทัวร์โดยสารตรัง – กรุงเทพฯ ยังไม่กลับมาวิ่งครบจำนวน และไม่ทุกสาย เหตุเพราะความไม่พร้อม และขาดทุน เนื่องจากผู้โดยสารยังน้อย และต้องจัดระยะห่างที่นั่งภายในรถ ทำให้ได้ผู้โดยสารไม่เต็มจำนวน ด้านเจ้าของรถตู้โดยสารวิ่งระหว่างจังหวัด โอดครวญยังเดือดร้อนหนัก หลังกลับมาวิ่ง โดยแต่ละคันต้องใช้เวลาประมาณ 5 – 6 วัน จึงจะได้วิ่ง 1 เที่ยว และขาดทุนทุกเที่ยว เที่ยวละเกือบ 1,000 บาท
วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตรัง พบว่าตามที่รถทัวร์โดยสาร และรถตู้โดยสาร กลับมาเปิดวิ่งปกตินับจากเมื่อวานนี้ (9 มิย.) นั้น ทั้งนี้ พบว่า รถตู้โดยสารวิ่งระหว่างจังหวัดตรังกับจังหวัดใกล้เคียง ยังบริการได้ไม่ครบทุกสาย และไม่ครบทุกคัน โดยรถตู้ตรัง -กระบี่ ตรัง-เกาะลันตา ยังคงงดบริการไม่มีกำหนด เช่นเดียวกับรถทัวร์สายตรัง-ภูเก็ต ก็ยังงดบริการต่อเนื่องไปอีก เนื่องจากไม่มีผู้โดยสาร และความไม่พร้อมของผู้ประกอบการ เพราะนอกจากจำนวนผู้โดยสารน้อยแล้ว ยังต้องเว้นที่นั่งตามมาตรการสาธารณสุขอีกด้วย ส่วนรถตู้โดยสารวิ่งระหว่างจังหวัดตรังกับจังหวัดอื่นๆกลับมาวิ่งปกติแล้ว โดยเฉพาะรถตู้สายตรัง -หาดใหญ่ พบว่าบรรดาเจ้าของรถต่างโอดครวญ เดือดร้อนหนัก หลังกลับมาวิ่ง เนื่องจากรถมีจำนวนมากถึง 125 คัน ต้องจัดเรียงตามคิว เนื่องจากผู้โดยสารน้อย แต่ละวันวิ่งได้ประมาณ 15 -20 คันเท่านั้น โดยแต่ละคันต้องใช้เวลาประมาณ 5 – 6 วัน จึงจะได้วิ่ง 1 เที่ยว และแต่ละเที่ยวนั่งได้ 9 คน จากจำนวน 13 คน เพราะต้องเว้นระยะห่างภายในรถ ทำให้และขาดทุนเที่ยวละเกือบ 1,000 บาท เพราะค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำมันต่อครั้งประมาณ 700 บาท ค่าคนขับจำนวน 500 บาท ทำให้ขาดทุนหนัก แต่ต้องวิ่ง เพราะไม่มีงานทำ
ส่วนรถทัวร์ปรับอากาศตรัง – กรุงเทพฯพบว่า ในส่วนของรถบริษัทเอกชน กลับมาวิ่งได้เพียงบริษัทเดียว วันละ 2 คันเท่านั้น ส่วนอีกบริษัทยังไม่พร้อมบริการ เนื่องจากผู้โดยสารมีน้อย และต้องเว้นระยะห่าง ทำให้รับโดยผู้โดยสารได้แค่ครึ่งคัน และไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสาร
โดยนางสาวนิตยา จันทร์แก้ว นายสถานีเดินรถจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในส่วนของบริษัท ขนส่ง จำกัด รถเดินทางจากกรุงเทพฯวันที่ 9 มิย. แต่ในส่วนของจังหวัดตรังจะรับโดยสารได้ในวันนี้ (10 มิย.) มีจำนวน 2 คัน ซึ่งจำกัดที่นั่งได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น และคนเต็มแล้ว เพราะต้องจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง หากมีจำนวน 40 ที่นั่งจะเหลือ 20 ที่นั่ง หากจำนวน 48 ที่นั่งจะเหลือ 24 ที่นั่งเท่านั้น และต้องตรวจวัดไข้ก่อนขึ้นรถ จัดเจลล้างมือให้ผู้โดยสารทุกคน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องสแกนเข้าระบบไทยชนะ เพื่อยืนยันตัวผู้โดยสารของแต่ละคันแต่ละเที่ยวด้วย
