ชาวนราฯ New Normal หลังรัฐบาลยกเลิกเคอร์ฟิววันแรก
ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้ผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการต่างๆเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นช่วงที่ 4 ต่อเนื่องจากการผ่อนคลายที่ดำเนินมาก่อนแล้วเป็นลำดับ และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 10) และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว เพื่อเป็นมาตรการผ่อนคลายและบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน จึงให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานทั่วราชอาณาจักรเฉพาะเหตุอันเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 14 มิ.ย.2563 เป็นต้นไป
โดยจากการตระเวนสำรวจบรรยากาศช่วงค่ำคืนของวันที่ 14 มิ.ย.63 ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ตามถนนหนทางต่างๆโดยเฉพาะสายหลัก ได้แก่ ถนนพิชิตบำรุง ถนนภูผาภักดี การใช้รถใช้ถนนได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ที่เคยเงียบเหงามานาน โดยประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ออกมาเป็นครอบครัวและมากับเพื่อนๆ ในที่ทำงานต่างพากันออกนอกบ้านเพื่อไปร่วมนั่งกินน้ำชาและโรตี ซึ่งเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ต้องกังวลในการรีบกลับบ้านเหมือนเช่นที่ผ่านมา อีกทั้งในช่วงเย็นถึงค่ำคืนของวันนี้ (14 มิ.ย.) ตรงกับวันอาทิตย์ที่ทางเทศบาลเมืองนราธิวาสได้กลับมาจัดงานถนนคนเดิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างหนักหลังธุรกิจร้านค้าพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยถ้วนหน้า โดยมีเจ้าหน้าที่ไทยอาสาป้องกันชาติ หรือ ทส.ปช.รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 33 ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้างานทุกคน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่จะมีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ทาง จ.นราธิวาสได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส เทศบาลเมืองนราธิวาส ออกทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ประชาชนได้รับรู้และตระหนักถึงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้ทุกคนเฝ้าระวังตัวเองและครอบครัวอย่างเข้มงวด ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะสามารถควบคุมได้จนคลี่คลายลงก็ตาม จนนำมาสู่การคลายล็อกในระยะหรือเฟสที่ 4
ซึ่งพบว่า ประชาชนชาวนราธิวาสส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ละเลย โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่หลายคนพกติดตัวไป รวมทั้งที่มีวางไว้บริการตามร้านค้า และการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ทำให้บรรยากาศที่เห็นเป็นวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal ในพื้นที่ปลายด้ามขวานไทยอย่างแท้จริง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: