ฉะเชิงเทรา – สภาวัฒนธรรมไทยจีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ เปิดสำนักงานถาวรที่บ้าน “จารุสมบัติ” ท่ามกลางแขกเหรื่อชั้นผู้ใหญ่ ทั้งชาวไทยจีนกว่า 300 คนเข้าร่วมงาน ก่อนครบรอบ 45 ปีด้านความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทย-จีน ด้านอัครราชจีนทูตเผย “เราเป็นพี่น้องกัน” ปัจจุบันความสัมพันธ์ทางการค้าเติบโตมากขึ้น ถึงกว่า 3,700 เท่า เป็นลำดับ 3 ของเอเชียอาคเนย์
วันที่ 20 มิ.ย.63 เวลา 17.11 น. ที่บ้าน “จารุสมบัติ” ตั้งอยู่เลขที่ 77 ม.3 ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ได้จัดพิธีเปิดสำนักงานใหญ่ถาวร สภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ภายในบริเวณบ้านพัก “จารุสมบัติ” เพื่อใช้เป็นสำนักงานใหญ่อย่างถาวร
ข่าวน่าสนใจ:
โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ หยางซิน อัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รักษาการเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เดินทางมาร่วมงานพร้อมด้วยอุปทูตฝ่ายวัฒนธรรมจีน และแขกเหรื่อชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนนักการเมือง ประกอบด้วย พลเอกวิชิต ยาทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา นายดล เหตระกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา
นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ อดีตอัยการสูงสุด นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอำเภอบ้านโพธิ์ ผกก. สภ.แสนภูดาษ พร้อมนักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่จำนวนกว่า 300 คนเดินทางมาร่วมในพิธีเปิดป้ายสำนักงาน สภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ในวันนี้
หลังพิธีเปิด นายพินิจ กล่าวว่า บทบาทของสภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์นี้ เรามีภารกิจทางด้านวัฒนธรรม และส่งเสริมความร่วมมือในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษา การกีฬา และเป็นสะพานเชื่อมในภารกิจบ้านพี่เมืองน้องกับประเทศจีน ตลอดจนหน่วยงานองค์กรต่างๆ ของประเทศจีน
ในการเปิดสำนักงานใหญ่ถาวรมั่นคงในครั้งนี้ เป็นนิมิตหมายที่ดี ในอันที่จะนำสภาและองค์กรทั้งด้านวัฒนธรรม การศึกษา การค้าการลงทุนต่างๆ ไปเชื่อมโยงกับองค์กรการค้า การศึกษา วัฒนธรรมของประเทศจีน ซึ่งขณะนี้ในฝ่ายของประเทศไทยนั้นมีความเรียกร้องต้องการมากที่จะไปเชื่อมความสัมพันธ์ในทุกๆ ด้าน กับประเทศจีน เช่นเดียวกันกับทางฝ่ายของประเทศจีนก็มีความเรียกร้องต้องการที่จะมาร่วมมือกับประเทศไทยในทุกๆ ด้าน
ฉะนั้นองค์กรนี้สภาแห่งนี้ จะเป็นสะพานเชื่อม เป็นสะพานสั้นๆ ที่จะนำคนไทยทั้งพ่อค้าแม่ค้า ชาวสวนชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร นักธุรกิจ ไม่ว่าระดับกลางระดับย่อย SME หรือระดับสูง เข้าไปเชื่อมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวกับประเทศจีน นายพินิจ กล่าว
ด้าน นายหยางซิน กล่าวว่า ประเทศจีนกับประเทศไทยนั้น เราเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว ตามคำพูดกันว่า “จีนไทย ไม่ใช่อื่นไกลเป็นพี่น้องกัน” และเมื่อ 45 ปีก่อน นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้ลงนามในสนธิสัญญาการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งได้เปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างจีนไทยเรา โดยตลอด 45 ปีที่ผ่านไปแล้วนั้น ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองประเทศได้ก้าวหน้าขึ้นไปในหลายขั้น
โดยมีทั้งการไปมาหาสู่และความร่วมมือกันเกือบทุกด้าน ทั้งทางการเมือง การค้า การลงทุน วัฒนธรรม การศึกษา ตลอดจนด้านอื่นด้วย ในตอนนี้เรามีความพึงพอใจระหว่างความสัมพันธ์ไทยจีนทั้งสอง หวังว่าเราจะมีความก้าวหน้าต่อไปอีกหลังจาก 45 ปีผ่านไปแล้ว จะมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกว่าปัจจุบันนี้อีก โดยจะครบรอบความสัมพันธ์ 45 ปี ในวันที่ 1 ก.ค.63 ที่จะมาถึงนี้แล้ว
สำหรับในประเทศไทยนี้ เรามีความซาบซึ้งใจ ที่มีสมาคมด้านความสัมพันธ์ในหลายๆ สมาคม เช่น สภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์นี้ ได้สร้างบทบาทในการกระชับความสัมพันธ์ในการไปมาหาสู่และความร่วมมือระหว่างประเทศเรา จึงขอแสดงความยินดีต่อการเปิดบ้านที่นี่ หลังจากนี้ทางสภาวัฒนาธรรมจะมีส่วนกระชับความสัมพันธ์กว่านี้อีก และจะมีการจัดกิจกรรมร่วมกันมากกว่านี้อีก เพื่อที่จะทำให้ประชาชนของประเทศเราทั้งสองเข้าใจซึ่งกันและกัน และไปมาหาสู่กันบ่อยกว่านี้อีก
ในส่วนทางด้านการค้านั้น เราได้มีการทำการค้ากันเพิ่มมากขึ้น เช่น ในปีที่แล้วเราได้เพิ่มมูลค่าทางการค้า ระหว่างจีนไทยสูงขึ้นถึงกว่า 3,700 เท่า นับจากที่เราเริ่มเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกันใหม่ๆ เมื่อ 45 ปีก่อน ซึ่งตอนนี้ประเทศจีนนั้นเป็นคู่ค้าสำคัญกับประเทศไทย และไทยเป็นคู่ค้าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคอาเซียนของจีน นายหยางซิน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: