ฉะเชิงเทรา – วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา พร้อมเปิดทำการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 1 หลังจากสถานการณ์โควิด 19 เริ่มคลี่คลายลงแล้วในวันที่ 1 ก.ค.นี้ แต่ยังคงมาตรการเข้มงวดในการเฝ้าระวังป้องกัน ด้วยการแบ่งนักศึกษาลดลงเหลือกึ่งหนึ่งในแต่ละชั้นเรียน โดยสลับสัปดาห์กันมาเข้าเรียนเพื่อรับมอบหมายงานจากครูอาจารย์ พร้อมตั้งจุดล้างมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์ทั่วทั้งพื้นที่ ควบคุมการเข้าออกด้วยเครื่องแสกนอุณหภูมิร่างกายตรวจจับด้วยคลื่นความร้อน ก่อนผ่านเข้าไปยังภายในสถานศึกษา
วันที่ 21 มิ.ย.63 เวลา 09.00 น. ที่โดมเอนกประสงค์ ภายในวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าที่พันตรี วัชรพล ลักษณลม้าย ผอ.วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา ได้ทำการเรียกประชุมผู้ปกครองเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจการปฏิบัติตนของนักศึกษา ก่อนเปิดทำการเรียนการสอนภาคเรียนที่ 1 ในปีการศึกษา 2563 เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคโควิด 19 ให้เข้าใจถึงมาตรการป้องกันและการดูแลสุขภาพของนักศึกษาในการมาเข้าชั้นเรียน
ข่าวน่าสนใจ:
โดยระบุถึง 6 มาตรการป้องกันที่ทางวิทยาลัยได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว เพื่อให้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้กำหนดให้วันที่ 1 ก.ค.63 เป็นวันเปิดภาคเรียนทั่วไป คือ มาตรการการคัดกรองไข้และความเสี่ยงก่อนที่จะเข้าสถานศึกษา ในขณะที่นักศึกษาเข้ามายังจุดแสกนลายนิ้วมือก่อนเข้าเรียน เพื่อแจ้งไปยังผู้ปกครองผ่านทางโทรศัพท์ด้วยข้อความ (SMS) จากนั้นจึงมาผ่านเครื่องแสกนตรวจเช็คอุณหภูมิด้วยกล้องตรวจจับคลื่นความร้อน
ซึ่งทางวิทยาลัยได้มีการเตรียมการไว้จำนวน 2 เครื่อง ทั้งประตูทางเข้าด้านหน้า และด้านหลังในการตรวจจับอุณหภูมิผู้ที่จะผ่านเข้ามาไม่ให้เกินกว่า 37 องศาเซลเซียส ครั้งละประมาณ 10 คนพร้อมกัน ซึ่งจะมีการบันทึกภาพและการตรวจจับอุณหภูมิร่างกายของบุคคลที่ผ่านเข้ามาในแต่ละราย ด้วยการแสดงผลจากการตรวจวัดขึ้นเป็นตัวเลขอยู่ที่ภาพหน้าจอของตัวบุคคลนั้นๆ
และจะมีการส่งเสียงสัญญาณเตือน หากพบบุคคลที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37 องศา ผ่านเข้ามาจะสามารถติดตามตัวเพื่อที่จะได้เข้าไปดูแลผู้ที่มีอุณหภูมิสูงเกินนั้นได้ต่อไป และเมื่อผ่านการแสกนอุณหภูมิร่างกายแล้ว นักศึกษาจะต้องเข้าไปล้างมือด้วยสบู่ยังจุดที่ได้มีการเตรียมการไว้จำนวน 6 จุด ขณะที่ก่อนจะขึ้นไปยังอาคารเรียน ยังมีจุดกดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วยการใช้เท้าเหยียบ ที่จะมีวางกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วไปทั้งวิทยาลัย อีกจำนวนกว่า 60 จุด
ขณะที่บริเวณโรงอาหารนั้น ได้มีการทำฉากกั้นและให้สามารถนั่งโต๊ะรับประทานอาหารได้ครั้งละไม่เกิน 2 คนต่อ 1 โต๊ะ จากเดิมโรงอาหารสามารถรองรับนักศึกษาได้ครั้งละประมาณ 500 คน จะลดลงเหลือประมาณครั้งละ 250 คน หากมาเข้าใช้บริการพร้อมกัน ซึ่งก็จะมีการสลับเวลากันพักกลางวัน ในการพักรับประทานอาหาร
ขณะที่มาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัยยังต้องมีอยู่ แต่ทางวิทยาลัยไม่ได้มีการบังคับให้นักศึกษาต้องสวมใส่หน้ากากที่เหมือนกัน หรือสีเดียวกัน เนื่องจากผู้ปกครองหรือนักศึกษาอาจจะมีหน้ากากอยู่แล้วหลายชนิด จึงอนุญาตให้นำมาใช้ได้ทั้งหมด แต่ต้องเป็นหน้ากากที่สามารถป้องกันเชื้อโรคโควิด 19 ได้เท่านั้น โดยที่ไม่ได้มีการบังคับให้ต้องสวมใส่หน้ากากอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือบังคับให้ผู้ปกครองต้องเสียเงินซื้อหน้าจากจากสถานศึกษาเท่านั้น
มาตรการต่อมา คือ การเว้นระยะห่าง โดยวิทยาลัยมีพื้นที่ประมาณ 14 ไร่ แต่มีนักศึกษาประมาณ 2,900 กว่าคน จึงทำให้ไม่สามารถที่จะจัดระยะห่างระหว่างบุคคลได้เพียงพอ จึงต้องมีการจำกัดจำนวนนักศึกษาให้น้อยลงให้เหลือมาเข้าเรียนได้ประมาณกึ่งนึ่งจากจำนวนทั้งหมด ด้วยการจัดรูปแบบการเรียนการสอนใหม่ ให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งของห้องเรียน และใช้วิธีการให้นักศึกษาเข้ามาเรียน 1 สัปดาห์เว้น 1 สัปดาห์ โดยช่วงที่ไม่ได้มาเรียนจะมีการมอบหมายงานให้นำกลับไปทำ โดยที่จะมีครูที่ปรึกษาคอยติดตามงาน
และมีครูผู้สอนรายวิชาคอยติดตามงานรายวิชา และยังมีระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ด้วย แต่ไม่ได้เน้นที่การเรียนแบบออนไลน์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้ปกครองบางรายอาจไม่มีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ที่อาจไม่เพียงพอต่อบุตรหลานในบ้าน แต่จะใช้วิธีการเรียนการสอนที่หลากหลายมาทดแทน และยังคงเน้นการเรียนการสอนในห้องเรียนเป็นหลัก โดยนักศึกษาจะได้ลงปฏิบัติจริง เรียนในภาคทฤษฎีจริงอย่างแน่นอน แต่เป็นเพียงการจำกัดกลุ่มให้เล็กลง แต่จะสอนจนครบตามหลักสูตรที่กำหนดได้อย่างแน่นอน
ส่วนมาตรการทำความสะอาดสถานที่ได้มีการวางแผนประชุมบุคลากร มีการควบคุมห้องน้ำ และมีการทำความสะอาดบ่อยครั้ง ทั้งโต๊ะเรียน โต๊ะอาหาร ราวบันได จะต้องมีการเช็ดโดยน้ำยาทำความสะอาดที่บ่อยครั้งมากขึ้น และมาตรการลดการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การทำกิจกรรมหน้าเสาธงนั้น จะมีการสลับชั้นเรียนกันมาทำกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อลดความแออัด เนื่องจากกิจกรรมหน้าเสาธงนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กมีระเบียบวินัย
ส่งเสริมความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงยังต้องมีอยู่ต่อไป เช่นเดียวกันกับการเรียกประชุมผู้ปกครองในวันนี้ ที่ได้มีการเรียกประชุมแบบสลับกันมา โดยในวันนี้ช่วงเช้าเป็นการประชุมผู้ปกครองของนักศึกษา ปวส.2 ช่วงบ่ายประชุมผู้ปกครองระดับชั้น ปวช.3 และในวันที่ 28 มิ.ย.จะเรียกประชุมผู้ปกครอง ชั้น ปวช.2 ในช่วงเช้าและบ่ายประชุมผู้ปกครอง ปวส.1 ส่วนวันที่ 12 ก.ค. จะเรียกประชุมผู้ปกครอง ปวช.1 ทั้งหมด แต่แบ่งสลับกันมาทั้งเช้าและบ่าย ว่าที่พันตรี วัชรพล กล่าว
–เด็กเรียนดี แห่เรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น ขณะสถานศึกษาพร้อมเปิดเทอมแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: