สระแก้ว – จับเขมร 5 ราย ลักลอบเข้าเมืองฝั่ง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รับสารภาพจ่ายค่าจ้างคนละ 3,000-5,000 บาท เพื่อไปทำงานที่ จ.ชลบุรี ปทุมธานี และระยอง
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 21 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ที่มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่เข้มงวดป้องกันการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายและปราบปรามปัญหาอาชญากรรม รวมถึงการลักลอบข้ามแดนของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงวิกฤตการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ร่วมกับชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 โดยร้อย ฉก.ตชด.3 จัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณบ่อขยะถนนบ้านทัพเซียม-หนองเสม็ด ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้ทำการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายชาวกัมพูชา จำนวน 5 คน แบ่งเป็น ชาย 4 คน หญิง 1 คน โดยกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เปิดเผยว่า จากการซักถามแรงงานชาวกัมพูชาทั้ง 5 ราย ทราบว่า ชาวกัมพูชาดังกล่าวเดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย และ จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โดยจะไปทำงานก่อสร้างในพื้นที่ จ.ชลบุรี จำนวน 2 คน เสียค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท คือ นายอัง สุข อายุ 35 ปี บ.กัวเปรียก ต.กระโพธ์ อ.สวายเจก จ.บันเตียเมียนเจย และนายแวน เสือง อายุ 36 ปี บ.กัวเปรียก ต.กระโพธ์ อ.สวายเจก จ.บันเตียเมียนเจย
ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาอีก 2 คน รับสารภาพว่า ต้องการจะไปทำงานก่อสร้างเทถนนกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยเสียค่าใช่จ่ายคนละ 3,000 บาท เช่นกัน คือ นายคม ศิลา อายุ 21 ปี บ.กระเดิ๊บทะมอ ต.โคกละเมียด อ.ทะมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย, นางพุธ จีมา อายุ 22 ปี บ. กระเดิ๊บทะมอ ต.โคกละเมียด อ.ทะมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย ส่วน นายมาย เมียก อายุ 30 ปี บ.ประดะ ต.ไปรจรูก อ.กรอลัน จ.เสียมเรียบ ชาวกัมพูชาอีก 1 ราย รับว่า จะไปทำงาน ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เสียค่าใช้จ่าย 3,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ฉก.ตชด.3 เข้าจัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมซักถาม ทำประวัติจนแล้วเสร็จ ได้นำตัวแรงชาวกัมพูชาทั้ง 5 ราย ส่งให้พนักงานสอบส่วน สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
———————————–
ข่าวโดย/อารียา สำราญ ทีมข่าวสระแก้ว
