ประจวบคีรีขันธ์ -จากกรณีนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงนามมอบอำนาจพร้อมสั่งการให้ นางกัลยารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีนางสาวขนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 28 ปี พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัด บุตรสาวอดีตกำนัน ต.คลองวาฬ ข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม หลังมีการตรวจสอบมีการยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการรวม 33.9 ล้านบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีญาติใกล้ชิด และ อ้างนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์
วันนี้ 22 มิถุนายน 2563 นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นจากการสอบถามหัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และตรวจสอบการยักยอกเงิน พบว่ามีผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียว ซึ่งผู้ต้องหาเองรับสารภาพว่านำเงินที่ได้ไปเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งงบประมาณดังกล่าว เป็นงบ ประมาณแก้ปัญหาภัยแล้ง เงินที่ตกค้างในบัญชีที่ใช้ทำสัญญาประกันงานกับผู้รับเหมาในหน่วยงานต่าง ๆ โดยเป็นการโอนเงินผ่านระบบอีเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในข้อเท็จจริงยังไม่มีการเบิกจ่ายผ่านเอกสารทางราชการ และปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกรณีนี้ เกิดจากความไว้ใจ ของผู้ร่วมงานในหน่วยงาน ให้พนักงานราชการระดับผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้ทำเรื่องการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง
ในส่วนของเส้นทางการเงินที่ถูกโอนผ่านชื่อญาติให้ใครก็ตาม ทางจังหวัดได้ประสานการทำงานกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการสืบหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมถึงการประสานกับ สำนักงานปราบปรามและป้องกันการฟอกเงิน หรือ ปปง. ถึงเส้นทางการเงิน หากเส้นทางการเงินไปถึงใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมผู้เกี่ยวข้องทุกคน
ในส่วนของการทุจริตที่รอดพ้นจากการตรวจสอบของ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เนื่องจากเป็นการโอนเงินผ่านระบบอีเล็กทรอนิกส์ ยังไม่มีการเบิกจ่ายทางเอกสารจริง อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ประสานขอรายละเอียดการโอนเงินจากธนาคารต่าง ๆ เพื่อสืบทราบเส้นทางการเงิน
สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ก่อนหน้านี้เป็นลูกจ้างชั่วคราวของสำนักงานจังหวัดปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน และสอบเข้าเป็นพนักงานราชการเป็นเวลา 2 ปี ในตำแหน่ง พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี โดยมีบุคลิกเป็นคนเงียบ และวิถีชีวิตปกติ ทำให้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตจากเพื่อนร่วมงาน โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เร่งให้ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยวันนี้ได้ทำการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตั้งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีความผิดวินัยร้ายแรง และสอบข้อเท็จจริงข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. ร.ต.อ.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกันยา พนักงานสอบสวน สภ .เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำตัวนางสาวขนิษฐา ขึ้นรถสายตรวจส่งตัวฝากขังผลัดแรกที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังศาลประจวบคีรีขันธ์ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากมีวงเงินการทุจริตสูง หลังจากได้ร่วมกับทนายความอาสาสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยรับสารภาพว่าทำการทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณของทางราชการเพียงคนเดียว
จากนั้นได้โอนเงิน 33.9 ล้านบาท สั่งจ่ายจากบัญชีภัยแล้ง 23.2 ล้านบาท บัญชีงบแผนพัฒนาจังหวัดปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านบาท บัญชีเงินฝากคลัง 7.3 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธกส. สาขาประจวบคีรีขันธ์ ชื่อบัญชี นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม ซึ่งเป็นมารดา ผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอีเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS ให้นำไปสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จ เพื่อความสะดวกในการเบิกจ่ายเงินเข้าบัญชี ขณะที่การเบิกจ่ายจากระบบคอมพิวเตอร์ภายในหน่วยงาน มีการใช้รหัสผ่านจากบัตรสมาร์ทการ์ดของหัวหน้าหน่วยงานรายหนึ่ง ที่มีอำนาจสั่งจ่าย แต่เสียบบัตรประจำตำแหน่งคาเครื่องไว้ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังพบว่ามีการลงลายมือชื่อจากผู้มีอำนาจในบัญชีเชคสั่งจ่ายไว้ล่วงหน้าโดยไม่กรอกตัวเลขจำนวนเงิน จากนั้นทิ้งเล่มเช็คไว้ภายในหน่วยงาน
#77ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: