X

ร้านทองระนองเงียบเหงา ไม่คึกคักรับเปิดเทอม ผู้ปกครองหมดก๊อกไร้ของขนขาย จำนำ

ร้านทองระนองเงียบเหงา ไม่คึกคักรับเปิดเทอม ผู้ปกครองหมดก๊อกไร้ของขนขาย จำนำ

ระนอง—-       นายนิตย์   อุ่ยเต็กเค่ง  ที่ปรึกษาคณะกรรมการหอการค้า จ.ระนอง  เปิดเผยว่า จากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจทั้งในไทยและในเมียนมาที่ชะลอตัว จากวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ทำให้เกิดลกระทบต่อชาวเมียนมาเป็นอย่างมากที่ค่าครองชีพสูงขึ้น สินค้าแพงขึ้น ทำให้ชาวเมียนมาเริ่มที่จะนำทองคำที่เก็บไว้ทยอยออกขายโดยส่วนใหญ่จะนิยมข้ามฟากเข้ามาขายในฝั่ง จ.ระนอง เนื่องจากได้ราคาดีกว่าในฝั่งเมียนมา และจะได้ถือโอกาสซื้อสินค้าจำเป็นในฝั่งไทยกลับไปยังเมียนมาด้วย เนื่องจากราคาสินค้าฝั่งไทยจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก แต่พบว่าส่วนหนึ่งเหตุที่ชาวเมียนมาข้ามฟากเข้ามาขายทองในฝั่ง จ.ระนองไม่ได้เป็นเพราะมาตรการเรื่องการเดินทางที่ยังเป็นข้อจำกัด ทำให้บรรยากาศการค้าขายทองคำใน จ.ระนอง จึงค่อนข้างจะซบเซาเป็นอย่างมากในขณะนี้

ทั้งที่ปกติช่วงดังกล่าวเป็นช่วงใกล้เปิดเทอมบรรดาผู้ปกครองจะต้องนำทองมาจำนำหรือขายอย่างคึกคักเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับบุตรหลานช่วงเปิดเทอม แต่จากการที่ราคาทองคำที่ปรับขึ้นก่อนหน้านี้มาแล้ว 2 รอบ ทำให้ผู้ที่ต้องการขายทองคำได้นำทองคำออกมาขายจำนำ หรือก่อนหน้านี้ ประกอบกับช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลายครอบครัวต้องพยุงค่าใช้จ่ายในครัวเรือนจึงได้นำทองคำมาขายและจำนำ เพื่อประคับประคองฐานะความเป็นอยู่ในช่วงวิกฤติ ทำให้ในช่วงเปิดเทอมนี้จึงค่อนข้างเงียบเหงา

นายสมชาย   จงนิตยกาล   เจ้าของร้านเพชรทองก้งกาฮิน จ.ระนอง เปิดเผยว่า ช่วงเปิดเทอมปีนี้บรรยากาศซื้อขายทอง หรือจำนำทองเงียบเหงาเป็นอย่างมาก ลูกค้าหายไปจากปกติเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมากว่าร้อยละ 50 ทั้งนี้คาดว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่น่าจะมีปัญหาค่าใช้จ่ายมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา จึงทำให้หลายคนได้นำทองเข้ามาขายช่วงก่อนหน้านี้มีราคาทองปรับตัวขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่เศรษฐกิจครัวเรือนต่างมีปัญหาในขณะที่ราคาทองขยับขึ้นทำให้หลายครัวเรือนได้นำทองออกมาขาย และคาดว่าส่วนหนึ่งอาจจะยังนำเก็บเงินที่ขายไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมให้กับบุตรหลาน จึงทำให้ปีนี้บรรยากาศการซื้อขายทองคำจึงค่อนข้างจะเงียบเหงามาก

ในขณะเดียวกันปีนี้ช่วงเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ลูกค้าชาวเมียนมาก็ไม่สามารถเดินทางข้ามฟากเข้ามาใน จ.ระนองได้ ส่งผลให้บรรยากาศยิ่งเงียเหงา แต่ในช่วงนี้หลังระนองเปิดด่านชายแดน พบมีลูกค้าชาวเมียนมาเริ่มข้ามฟากนำทองคำที่เก็บสะสมออกจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเพื่อนำเงินไปซื้อสินค้าจำเป็นประเภทอื่น  ซึ่งพบว่าทองที่ประชาชนชาวเมียนมานำข้ามฟากเข้ามาขายฝั่งไทยมีทั้งทองคุณภาพปกติและทองคุณภาพต่ำปะปนกัน  ทำให้ร้านทองในจ.ระนองได้วางมาตรการเข้มในการตรวจสอบ โดยเริ่มจากการสังเกตุพฤติกรรมบุคคลที่นำทองคำเข้ามาจำหน่ายหากมีข้อพิรุธก็อาจจะปฏิเสธการรับซื้อหรือรับจำนำ แต่หากสังเกตุพฤติกรรมยังไม่ชัดเจนอาจจะขอตรวจสอบทองคำที่บุคคลเหล่านั้นนำมาจำหน่ายหรือจำนำ  โดยขณะนี้ร้านทองได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบคุณภาพทองจากเดิมที่ดำเนินการใน 3 ลักษณะ เริ่มจากการพิจารณาด้วยตา,การในไปฝนกับหินเพื่อดูเนื้อทอง หรือการนำเข้าไฟเพื่อทำการทดสอบ ขณะนี้พบว่าหลายร้านใช้วิธีการขั้นสุดท้ายคือการตัดดูเนื้อทองคำ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบคุณภาพของเนื้อทองได้เกือบ 100% จากวิธีการเดิมที่นำเข้าไฟจะพิสูจน์ได้น่าเชื่อถือมากที่สุด แต่พบว่าจากการแพร่ระบาดของทองคำปลอมและทองคุณภาพต่ำทำให้ร้านทองจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบทอง และหากไม่แน่ใจก็จะปฏิเสธการรับซื้อหรือจำนำทันที

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of บุญเลื่อน พรหมประทานกุล

บุญเลื่อน พรหมประทานกุล

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดระนอง บรรณาธิการ นสพ.เซ้าท์เทิร์นนิวส์ระนอง