X

ญาติปลัดเข้าพบตำรวจ หลังถูกกล่าวหาว่าหลบหนี  พร้อมเปิดใจไม่ได้ล่าสัตว์

    ในวันนี้(10 ต.ค.61)  นายสมเกียรติ  เพ็งนาเรนทร์  อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 1 ต.บ้านคา  อ.บ้านคา  จ.ราชบุรี    พร้อมกับญาติๆได้เดินทางมาพบกับพ.ต.อ. เศรษฐศิริ  นพภยะ  ผกก.สภ.บ้านคา  จ.ราชบุรี  หลังมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมในคดีที่มีการจับกุมนายวัชรชัย   สมีรักษ์ อายุ 41 ปี หรือปลัดแมน ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี พร้อมพวกรวม 11 คน ขับรถยนต์ออฟโรด 6 คัน ออกจากป่าในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค  อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี   พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนยาว .22 ติดกล้อง กระสุนปืน รวมทั้งอุ้งเท้าหมีขอ 4 ข้าง ทั้งหมดอ้างว่าเข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์เต่าดำ ไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ แต่ได้ซื้อซากอุ้งเท้าหมีขอมาจากชาวบ้านในราคา 100 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อุทยานฯแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ให้ดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าฯ, มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆรวม 9 ข้อหาปลัดและพวกพัวพันการล่าสัตว์ป่า ที่จ.กาญจนบุรี    แต่เมื่อมีการตรวจสอบภาพถ่ายแล้วพบว่ามีนายสมเกียรติอยู่ในเหตุการณ์ด้วย  แต่กลับไม่มีชื่อในการถูกดำเนินคดี   วันนี้จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนนั้นไม่ได้หลบหนีแต่ในวันที่เกิดเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการจับกุม และไม่ได้ขอบัตรประชาชนหรือสอบปากคำแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลา 3 ทุ่ม ก็เลยกลับบ้านซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เห็นและขอปฎิเสธว่าไม่ได้ไปล่าสัตว์ ไม่ได้เป็นพราน แต่แค่ไปร่วมทำบุญแก้บนกับปลัดที่สอบนายอำเภอได้ เท่านั้น

โดยนายสมเกียรติ  ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดปลัดแมน  ซึ่งเป็นหลานชายมาชวนไปร่วมทำบุญแก้บนที่สำนักสงฆ์หนองเต่าดำ  จ.กาญจนบุรี  ตนก็ไปและเมื่อไปทำบุญแก้บนเสร็จก็เดินทางกลับ  โดยตนนั้นนั่งรถคันแรกมากับปลัด  ส่วนรถคันอื่นๆซึ่งเป็นเพื่อนๆของปลัดก็ขับตามมาอีกหลายคัน   ขณะกำลังกลับออกมาก็มีรถของเจ้าหน้าที่สวนขึ้นมา และเรียกให้จอด  พร้อมกับขอตรวจค้น  ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะในรถไม่มีอะไรผิดกฎหมาย  ส่วนของที่ผิดกฎหมายที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเจอนั้นก็ไม่ได้อยู่ในรถที่นั่งมากับปลัด  แต่จะไปเจอที่รถคันไหนนั้นไม่รู้  และเมื่อเจ้าหน้าที่นำลงมาที่อุทยานฯ  ก็ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่คนไหนมาสอบปากคำ หรือมาขอบัตรประชาชนแต่อย่างใด  และก็ไม่ได้หนีไปไหน จนกระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่ม  มีรถที่ไปรับญาติที่นั่นก็เลยอาศัยเขากลับมา  และยังกลับมาขายน้ำปั่นตามตลาดนัดปกติ  ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด  จนกระทั่งเห็นมีข่าวและมีรูปตนเองว่าเป็นผู้ต้องหาหลบหนี  วันนี้จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับ ผกก.สภ.บ้านคา

หลังจากนั้นทางพ.ต.อ.  เศรษฐศิริ    นภพยะ  ผกก.สภ.บ้านคา  พร้อมกับนายประทีป  เหิมพยัคฆ์  หัวเขตรักษาพันธ์ฺสัตว์แม่น้ำภาชี ได้นำตัวนายสมเกียรติไปส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค ทำการสอบปากคำ

ด้านนางสาวนุช   สอดศรี   อายุ 41 ปี  อยู่บ้านเลขที 40/2  หมู่ 1  ต.บ้านคา  ซึ่งเป็นน้องสาวของปลัดแมนก็เปิดใจว่า  ปลัดเป็นคนจิตใจดีให้ฆ่าไก่สักตัวยังไม่ทำเลย เวลาที่กลับมาบ้านก็จะบอกพี่น้องลูกหลานเลยว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด  หรือแม้แต่ใครมีคดีอะไรก็ไม่เคยใช้ตำแหน่งเข้าไปยุ่งเกี่ยว  แต่ปล่อยให้เป็นไปกระบวนการของกฎหมาย  ส่วนที่จะไปพัวพันกับคดีได้อย่างไรนั้นไม่ทราบ  แต่เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา   ปลัดพาแม่มาที่ อบต.บ้านคา เพื่อยืนยันว่าผู้สูงอายุคนนี้ยังมีชีวิตอยู่   และยังมีนั่งคุยกับตนว่า ได้สอบติดนายอำเภอแล้ว และจะไปแก้บนและจะไปทำบุญ  ส่วนปืนที่ปลัดพกนั้นเป็นปืนประจำตำแหน่ง  ส่วนรถที่ไปในวันเกิดเหตุก็ไม่ใช่รถปลัด  เพราะรถของปลัดจะเป็นรถเก๋ง   และมาชวนน้าชายไปด้วยเพราะน้าชายเป็นพวกสายบุญอยู่แล้ว  ส่วนขาหมีที่พบนั้นมายังไงไม่รู้ แต่เชื่อมั่นว่าพี่ชายไม่ได้ล่าสัตว์และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแน่นอน   พอเกิดเรื่องขึ้นมาก็เสียใจมากเพราะมีข่าวบางสำนักโจมตีโดยที่ยังไม่รู้ความจริง  ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องก็ยังไม่ได้พบกับพี่ชายหรือได้พูดคุยกันเลย  ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าน้าชายของตนเป็นพรานป่านั้นก็ยังงง ว่ามีข่าวออกมาได้ยังไง  และยังเชื่อมั่นว่าพี่ชายนั้นไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเขาทำงานด้านปกครองย่อมต้องรู้กฎหมายดี  คงไม่เอาตำแหน่งเข้าไปเสี่ยงด้วยเพราะกว่าจะได้ตำแหน่งนี้มาก็ลำบาก เพราะต้องร่ำเรียนมาด้วยตัวเองเพราะทางบ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร  และก็อยากจะฝากบอกกับสังคมว่า อย่าเพิ่งโจมตีขอให้มีหลักฐานให้ชัดก่อน เพราะถ้าคนไม่ผิดแต่ถูกโจมตีแบบนี้มันก็จบอนาคตเหมือนกัน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี