ผบก.ภ.ตาก นำ ซาริม ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เมื่อวันที่ 5 ก.ค.63 พล.ต.ต.ปริญญา วิศิฐ์ฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก และพ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ผกก.สภ.แม่สอด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่สอด ได้นำตัวนายซาริม ผู้ต้องหาคดีฆ่าด.ญ.ฮูจีน่า เหตุเกิดที่ชุมชนมูฮายีรีน เขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 63 และเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 หลังจากระดมกำลังร่วมกับชาวบ้านจนพบศพ จากนั้นจับผู้ต้องหาได้ในละแวกเดียวกัน โดยก่อนวางแผนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปบล็อกพื้นที่ทางเข้าออก บริเวณถนนรอบๆ ที่เกิดเหตุ ห้ามไม่ให้รถยนต์ หรือ บุคคลเข้าออกบริเวณจุดทำแผน เกรงว่าจะมีการรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากมีชาวไทย และชาวเมียนมาจำนวนมากไม่พอใจหลังทราบข่าวนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำแผนจุดแรกเป็นจุดที่นายซาริมอุ้มด.ญ.ฮูจีน่า อายุ 5 กว่าขวบไปข่มขืน ขณะที่เด็กกำลังเล่นกับเพื่อน จากเดินอุ้มต่อไปไปยังจุดที่ 2 ซึ่งเป็นพงหญ้า และที่ทิ้งกาบมะพร้าว เป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีพงหญ้าที่คนมองไม่เห็นลึกเข้าไปด้านใน และลงมือบีบคอเด็ก จากนั้นใช้กางเกงเด็กยัดเข้าไปในปาก เพื่อให้ขาดอากาศหายใจและทำการข่มขืน เมื่อเสร็จกิจจึงทิ้งศพไว้ และกลับไปบ้านแบบเนียนๆ
พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า ได้มาอำนวยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และดูจากคำให้การต่างๆถือว่าสมบูรณ์แบบมาก หลังจากเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากญาติว่าพบศพ จึงลงไปพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ภายใน 2 ชั่วโมง ถือว่า รวดเร็วมาก ขณะที่จับได้ผู้ต้องหาให้การโยกโย้ และทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สุดท้ายก็รับสารภาพ ส่วนการสอบสวนนั้น ทางตำรวจได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไว้หมดไว้ได้สมบูรณ์ ถือว่ามีหลักฐานแน่นหนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะทำแผน มีประชาชนชาวเมียนมา และญาติต่างดูอยู่ห่างๆ พยายามที่จะเข้าไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่ไว้หมด ทำให้การทำแผนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับคดีนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านมากอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการกับชาวเมียนมาที่ไม่มีหลักแหล่งไปอาศัยอยู่ในย่านชุมชนที่ว่างเปล่า บางจุดเหมือนซ่องโจร และมีปัญหาการค้ายาเสพติด ทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ไปถึงการออกไปงัดแงะ ขโมยของบ้านต่างในเขตเทศบาลตำบลแม่สอด
