สงขลา – เจ้มุกสาวใหญ่ใจบุญ อ.สะเดาเลี้ยงหมา – แมว จรจัดกว่า 500 ตัว เชื่อขึ้นทะเบียน 450บาทต่อตัว ไม่ใช่การแก้ปัญหา หากรัฐเดินหน้า ยอมทิ้งภาระทั้งหมดที่แบกมากว่า 8 ปี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเกินเดือนละแสน ซ้ำขาดหน่วยงานยื่นมือ เลิกเลี้ยงแน่นอน
12 ต.ค. 61 นางไข่มุก เพ็ชรัตน์ อายุ 51 ปี หรือ เจ้มุก สาวใจบุญที่เลี้ยงสุนัข และแมวจรจัดรวมกว่า 600 ตัว ภายในเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ซึ่งเป็นรีสอร์ทเก่า เลขที่ 40 ถ.อิสลามบำรุง เขตเทศบาลเมืองสะเดา อ. สะเดา จ.สงขลา ให้ความเห็นเกี่ยวกับ กรณีที่รัฐบาลจะมีการขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว โดยจะมีค่าใช้จ่ายตัวละ 450 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขและแมวอย่างกว้างขวาง แม้จะมีข่าวว่าทางรัฐยอมถอยเพื่อทบทวนใหม่แล้วก็ตาม
เจ้มุก บอกว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ที่เลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่เก็บสุนัขและแมวจรจัดมาเลี้ยงไว้เป็นจำนวนมากๆ ยกตัวอย่างของตัวเองมีสุนัข – แมว จรจัดที่ต้องดูแลไม่ต่ำกว่า 600 ตัว มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร ค่ายา ค่าคนดูแล และอื่นๆรวมกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งเราจัดหาเงินกันมาเอง มีบ้างที่ผู้ใจบุญช่วยกันบริจาค ส่วนหน่วยงานของรัฐในการช่วยเหลือมีเพียงน้อยนิด หรือแทบจะไม่มีเลย
ทุกวันนี้ที่ทำอยู่เท่ากับเป็นการช่วยเหลือสังคม สุนัข และแมว ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ประสบอุบัติเหตุ ป่วย และถูกเจ้าของทอดทิ้งให้เป็นสัตว์จรจัด ก็เก็บมาเลี้ยงเพราะสงสารซึ่งทำมากว่า 8 ปีแล้ว จำนวนก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางคนพอรู้ว่าเราเลี้ยงสัตว์พวกนี้ก็แอบนำมาปล่อย หากมีการเดินหน้าที่จะต้องจ่ายค่าขึ้นทะเบียนตัวละ 450 บาท รวมถึงค่าปรับที่สูงถึง 25,000 บาท เชื่อว่าสุนัข – แมว จะถูกนำมาทิ้งเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“ อยากให้มีการหามาตรการอื่นๆ มาแก้ปัญหาโดยไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เลี้ยงสุนัข – แมว หากลงทะเบียนลงได้แต่ขอให้ฟรี แล้วก็ทำหมันสัตว์เหล่านั้นเพื่อไม่ให้มีการเพิ่มจำนวน ที่ได้ยินมาจ่าย 450 บาทชัดเจน แต่ไม่มีบอกเลยว่าจะมีสวัสดิการอะไรให้บ้างเช่นหากสัตว์เจ็บป่วย จะรักษาฟรีไหม ส่วนตัวที่เลี้ยงอยู่ในปัจจุบันหากให้ขึ้นทะเบียนคงไม่เอา เพราะภาระเราก็เยอะอยู่แทบไม่ไหวในแต่ละเดือน คงยอมปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติคือเลิกเลี้ยงไปเลย ซึ่งเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้ ” เจ้มุกบอก
