นราธิวาส-ผบก.ตม.6 ย้ำโก-ลกการ์ดอย่าตก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 63 พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 ได้เดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.นราธิวาส เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานและรับฟังปัญหารวมทั้งข้อขัดข้อง โดยมี พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ก่อนเข้าประชุมโดยในที่ประชุม พ.ต.อ.ศุภชาติ ผกก.ตม.จว.นราธิวาส ได้กล่าวสรุปผลการปฏิบัติงานในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 หลังจากประเทศมาเลเซียใช้กฎเหล็กในการปิดประเทศ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ตรึงกำลังตามแนวพรมแดนควบคู่กับทางการไทย ที่ส่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันชายแดน ตลอดแนวตะเข็บระยะทาง 151 ก.ม. ตั้งแต่ อ.สุคิริน จรด อ.ตากใบ เพื่อสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานไทย ที่เดินทางไปทำงานในรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซีย รวมทั้งกลุ่มบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง ที่ไม่ผ่านการคัดกรองโรค ที่สุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด -19 แพร่ระบาดใน 2 ประเทศ โดยในช่วงที่ประเทศมาเลเซียใช้มาตรการกฎเหล็กปิดประเทศนั้น ทางประเทศไทยได้ประกาศให้ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เป็นจุดผ่อนปรนให้คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ ด้วยการขออนุญาตให้ถูกต้องโดยผ่านการอนุญาตของสถานทูตและสถานกงสุล ซึ่งมีคนไทยเดินทางเข้าประเทศถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 3,086 คน และลักลอบเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย จำนวน 3,376 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้จะถูกควบคุมตัวมาเสียค่าปรับและคัดกรองโรคตามกระบวนการ โดยในช่วงที่ผ่านมากลุ่มที่ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจพบมีเชื้อโควิด- 19 ที่ติดเชื้อมาจากประเทศมาเลเซียแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 กล่าวในที่ประชุมพอสรุปใจความว่า การลงมาในครั้งนี้ได้นำความห่วงใยของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในเรื่องของความเข้มงวดกวดขันของบุคคลต่างด้าว ที่อาจจะฉวยโอกาสใช้ช่องทางธรรมชาติแฝงตัวเข้ามาในประเทศ และนำเชื้อไวรัสโควิด -19 มาแพร่ระบาด ซึ่งยากต่อการควบคุม ซึ่งในภาพรวมตนได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 4 และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในเรื่องของความร่วมมือในการสอดส่องดูแลและสกัดกั้น อย่าให้มีการเล็ดลอดเข้ามาในประเทศเป็นอันขาด ที่ยากต่อการควบคุมโรค
ต่อมา พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 ได้เดินทางไปยังด่านพรมสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 48 และเจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดน ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ที่บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก พร้อมทั้งได้เดินทางไปดูสภาพของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่กลางสะพานเชื่อมต่อระหว่างด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก กับด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 ฟากฝั่งยืนตรึงพรมแดน เนื่องจากแม่น้ำสุไหงโก-ลก มีความกว้างประมาณ 50 เมตร ซึ่งง่ายต่อการลักลอบเข้าเมือง แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมกลุ่มบุคคลเหล่านี้ มาเข้ากระบวนการคัดกรองโรคได้
โดยก่อนที่ พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 จะเดินทางกลับได้เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการผ่านมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เน้นย้ำป้องกันบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 ขึ้นมาเมื่อไหร่ในบ้านของเรา ตนจึงลงมาดูพื้นที่ชายแดนใต้ทั้งหมดร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 4 หน่วยควบคุมป้องกันชายแดน ซึ่งทุกหน่วยเราได้ร่วมสนธิกำลังกันในการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอเรียนว่าหลังจากประเทศมาเลเซียปลดล็อกดาวน์แล้ว สถานการณ์ดีขึ้น แนวโน้มที่จะหลบหนีเข้ามาลดน้อยลง เขาเริ่มเปิดกิจการให้คนมีงานทำ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราอย่าการ์ดตกต้องช่วยกันดูว่าแรงงานกลุ่มนี้จะเข้ามาเมื่อไหร่ด้วย
