ชัยภูมิ – ก่อนรีบแจ้ง จนท.รพ.-ตร.ช่วยตรวจสอบ สั่งระดมชุดสืบฯ เร่งล่าตัวหัวขโมยแสบรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ด้านแม่คุณยายวัย 70 ปี ยังสุดช้ำใจหนักเพราะเงินที่เหลือถอนมาครั้งนี้จากธนาคารทั้งหมด เป็นก้อนสุดท้ายแล้ว ที่จะเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวและเป็นค่ารักษาลูก วอนหัวโมยรายนี้ช่วยรีบนำมาคืน ก่อนจะถูก จนท.แกะรอยคาดว่าใกล้รู้ตัวในเร็วๆ นี้แล้ว!
เมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 15 กรกฏาคม 2563 ร.ต.ท.วริศภา เมฆสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุลักทรัพย์ขโมยเงินสดอยู่ภายในตึกผู้ป่วยหญิง อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 3 โรงพยาบาลชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณหน้าห้องอายุรกรรมหญิง 1 โดยมี นางจินตนา สิงห์ขรอาสน์ อายุ 70 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ
ข่าวน่าสนใจ:
เล่าว่า เมื่อช่วงตั้งแต่วานนี้ที่ผ่านมา คุณแม่ วัย 70 ปี เองได้ไปถอนเงินสดมาจากธนคารจำนวน 20,000 บาท เพื่อที่จะนำมาไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกสาวที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล หลังจากที่ลูกสาวได้ป่วยจากโรคประจำตัว และมารักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ซึ่งตนเองได้มานอนเฝ้าไข้ลูก
และก็นำเงินจำนวนดังกล่าวกว่า 20,000 บาท เก็บไว้ในกระเป๋าตัวเองตลอด มาตั้งวานนี้ที่ผ่านมา จนกระทั่งประมาณช่วงบ่ายโมงของวันนี้ ตนเองได้วางกระเป๋าสะพัดใส่เงินดังกล่าวไว้ที่ใต้เตียงนอนคนไข้ของลูก จึงเดินได้ไปถือกระเป๋าก่อนจะมาพบว่ากระเป๋ามีลักษณะเหมือนเบาๆ ผิดปกติ จึงทำการเปิดดูเพื่อตรวจสอบเงิน จึงพบว่าเงินสดจำนวน 20,000 บาทที่เบิกถอนมาหายไปแล้ว ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องของทางโรงพยาบาล และแจ้งเจ้าหน้าตำรวจมาช่วยตรวจสอบ และอยากให้คนร้ายรีบนำเงินมาคืนเพราะเงินก้อนที่เหลือนี้ เหลือก้อนสุดท้ายที่เบิกถอนมาจากธนาคารหมดแล้ว เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัวและใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลลูกสาวที่ก็ยังป่วยหนัก
ด้านร.ต.ท.วริศภา เมฆสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุทั้งบริเวณเตียงคนไข้อย่างละเอียดแล้ว และมอบหมายให้ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวหัวขโมยรายนี้มาดำเนินดคตามกฏหมายโดยเร็วต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: