X

รมช.พาณิชย์ ลุยพบกลุ่มนครชัยบุรินทร์แนะพัฒนาคุณภาพสินค้าชี้ช่องใช้ FTA ขยายตลาดส่งออก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่บุรีรัมย์ มุ่งช่วยเหลือเกษตรกร SME และวิสาหกิจชุมชนพัฒนาสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด แนะช่องทางทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และชี้ให้เห็นประโยชน์จากการใช้ FTA เพิ่มโอกาสในตลาดต่างประเทศ หวังยกระดับรายได้อย่างยั่งยืน

(16 ก.ค.63) นายวีรศักดิ์  หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เป็นประธานเปิดการสัมมนา “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี ครั้งที่ 2” เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับเกษตรกร ผ่านการจัดอบรมสัมมนาเรื่องการพัฒนาสินค้าเกษตรของไทย ให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด และผู้ซื้อ ไม่ใช่เฉพาะผู้ซื้อในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ซื้อในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ได้มีการทำเอฟทีเอกับไทยว่าจะเปิดตลาด ลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันไทยมีการทำเอฟทีเอรวม 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ

โดยมี นางสาวเก็จพิรุณ เกาะสุวรรณ์  รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายไชยวัฒน์ จุนถิระวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้ จำนวน 30 คน ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมร้านค้าส่งค้าปลีก ทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และพบหารือเกษตรกร ผู้ประกอบการ ณ ศูนย์เรียนรู้การทอผ้าอัคนี อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแนะนำการยกระดับการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการส่งออกในตลาดการค้าเสรี

นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า  หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ จึงได้เชิญกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่อีสานใต้ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อช่วยเกษตรกร SME และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของตลาด พัฒนามาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ เพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการขึ้นทะเบียนสินค้าท้องถิ่นเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ที่สามารถเชื่อมโยงเรื่องราว ลักษณะพิเศษ และจุดเด่นของสินค้ากับพื้นที่ ตลอดจนแนะนำช่องทางการทาตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อขายในประเทศและเพื่อส่งออก โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ สร้างแต้มต่อให้กับสินค้า

นายวีรศักดิ์ หวังว่าการจัดสัมมนาครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมนำความรู้และประสบการณ์ ที่แลกเปลี่ยนกัน ไปพัฒนาสินค้า ยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เพิ่มยอดขาย จำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น ขยายช่องทางการจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ นำไปสู่การสร้างรายได้ที่แน่นอนมั่นคงให้กับเกษตรกร และสมาชิกในเครือข่ายของสภาเกษตรกรแห่งชาติต่อไป

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน