สสจ.ระนองเน้นย้ำ 9 พฤติกรรมสำคัญที่ช่วยห่างไกลโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ข่าวน่าสนใจ:
ระนอง-นายสาธิต ทิมขำ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง ได้ออกประชาสัมพันธ์เพื่อการรับรู้ของประชาชน ในการเฝ้าระวัง 9 พฤติกรรม เพื่อสุขอนามัยที่ดี และสามารถช่วยให้ห่างไกลจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ โดยพบว่าหากทำเป็นประจำจะสามารถป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้ห่างไกลจากโรคและความเจ็บป่วยได้ สำหรับพฤติกรรมทั้ง 9 อย่าง ที่เน้นย้ำให้ประชาชนพึงปฏิบัติ ได้แก่ การล้างมือก่อนเข้าบ้าน เเละระหว่างใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในบ้าน
การล้างมือเมื่อรับพัสดุ และหลังแกะพัสดุ ทุกครั้ง การ ล้างมือก่อนและหลังกินอาหาร การแยกของใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ไม่ใช้ปะปนกัน การอาบน้ำสระผม หลังกลับจากที่แออัด แล้วสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ เสื้อผ้าที่ใช้แล้วควรใส่ตะกร้าผ้า สำหรับเตรียมซัก ไม่ใส่ซ้ำ ไม่วางระเกะระกะ ใช้จานชามช้อนส้อมส่วนตัว ไม่กินอาหารร่วมกัน อาหารที่ซื้อหรือสั่งมากิน ให้เทใส่จานชามที่บ้านเสมอ ไม่ควรกินอาหารจากห่อหรือกล่องบรรจุอาหารที่ร้านใช้ส่งมา
การใช้ภาชนะช้อนส้อมของที่บ้านช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้ และอุ่นอาหารให้ร้อนก่อนกินทุกครั้ง สุดท้ายให้ แยกขยะให้ถูกประเภทโดยเฉพาะขยะติดเชื้อ เช่น กระดาษเช็ดปาก กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำ หน้ากากอนามัยใช้แล้ว และถุงมือใช้ครั้งเดียวทิ้ง มัดใส่ถุงแยกทิ้งลงถังขยะอันตราย ไม่ปะปนกับขยะทั่วไป
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการของจังหวัดระนองในการป้องกันการแพร่ระบาดของติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้ 1) ให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง กรณีเดินทางออกนอกเคหสถาน และให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้ถูกวิธี คือ ด้านบนของหน้ากากต้องปิดจมูกด้านล่างให้ปิดถึงใต้คาง 2) ให้ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอยู่เสมอ 3) เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อทางฝอยละอองน้ำลาย 4) ผู้ประกอบกิจการหรือสถานบริการ จัดให้มีการลงทะเบียนแก่ผู้มาใช้บริการทั้งเข้าและออกจากสถานที่ และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ หรือมาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทนหากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 098-0132100
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: