พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีวัยรุ่นยกพวกตีกันในโรงพยาบาล ที่ สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2563 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาที่ สภ.สำโรงใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้า ในเหตุการณ์วัยรุ่นสองกลุ่มยกพวกตี่กันในโรงพยาบาล โดยแยกเป็น 3เหตุการณ์ เหตุการณ์ที่ 1ประมาณ1 1ราย เหตุการณ์ที่ 2 จำนวน 9 ราย เหตุการณ์ที่ 3 จำนวน 17 ราย โดยผู้ต้องหาบางราย มีรายชื่อซ้ำในเหตุการณ์ที่ 1 ที่ 2 โดยรวมผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้นจำนวน 27 คน ขณะนี้ สามารถติดตามตัวได้ 26 คน และคาดว่าภายในวันนี้จะติดตามตัวได้ครบทั้งหมด โดยทั้งหมดจะแยกข้อหากัน บางรายอาจจะถูกแจ้งข้อหาในหลายขอหา ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการก่อเหตุ
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนและสอบสวน โดยท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ตั้งคณะทำงานให้ระดับภาคและระดับภูธรจังหวัดลงมาควบคุมสำนวนด้วยตัวเองเพื่อความรอบครอบ และเพื่อความมั่นใจของบุคลากรทางการแพทย์และทางผู้เสียหายทั้งหมด ขณะนี้จากการสืบสวนเราทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดมีทั้งหมด 27 ราย เราจับกุมได้แล้ว 24 ราย และอีก 2 รายฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามอยู่น่าจะได้ไม่เกินเที่ยงคืนของวันนี้ส่วนอีกคนหนึ่งเสียชีวิตวันนี้เราจะปิดเกมส์ทั้งหมด จับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด ซึ่ง 27 คนทั้งหมดรวมทั้ง 3 เหตุการณ์ อาจจะมีเหตุการณ์ที่ 1-2-3 บางตนอยู่ทั้ง 3 เหตุการณ์ บางคนอยู่ในเหตุการณ์ที่ 2 และที่ 1 บาสงคนอยู่ในเหตุการณ์ที่ 2-3 ตรงนี้ตนได้สั่งการณ์ให้พนักงานสอบสวน โดยท่านรองผู้การสอบสวน ทำการสอบสวนให้ชัดเจน อันนี้ขอเรียนพี่น้องสื่อมวลชน และทางบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเมื่อสักครู่ท่านนายกแพทยสภา พร้อมทีมงานท่านไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลเพื่อให้กำลังใจบุคคลากรทางการแพทย์ และได้เดินทางมาให้กับกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมได้โดยเร็ว และท่านได้ฝากในเรื่องการป้องกันไม่ให้มีเหตุซ้ำขึ้น ซึ่งตนได้ว่าท่าน พล.ต.อ.จักทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการณ์ให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาค 1 ท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็ได้มีการเรียกประชุมทุกส่วน 9 จังหวัด 13 สถานีทางวีดีโอคอลเฟอรเร้น ว่าให้เพิ่มความเข็มในมาตรการการป้องกั้นเหตุ วางแผน และมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยข้างเคียงทั้งหมด พร้อมกำชับไม่ให้มีเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก และในวันนี้เราทีมสืบสวนใหญ่ลงมาภาค 1 ลงมาบูรณาการณ์ร่วมกับสืบสวนจังหวัดและโรงพัก สภ.สำโรงใต้ และมีการแบ่งงานกันทำชัดเจน และขอเรียนยืนยันเลยว่าในเรื่องนี้ นอกจากเราเร่งรัดติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วแล้วเราก็จะรีบสรุปสำเนารวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลการตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งตนได้ประสานไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เพื่อรอผลตรวจเร่งด่วน และได้สั่งการให้รองผู้บังคับการสอบสวนและทีมสอบสวนตั้งทีมพนักงานสอบสวนขึ้นดึงมาจากหลายโรงพักมาร่วมกันสอบสวนในคืนนี้ให้ครบถ้วนให้เสร็จโดยเร็ว คิดว่าภายในสัปดาห์นี้หรือ ต้นสัปดาห์หน้าเราน่าจะส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการทั้งหมดได้ ในส่วนรายของคนเจ็บเราก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาด้วย จะดูว่าความผิดมันต่างกรรมต่างวาระใครผิดประเด็นไหนเราแจ้งทุกข้อหา และบางคนอาจจะมากกว่า 4 ข้อหาเพราะอยู่ให้หลายเหตุการณ์ อันนี้ก็เรียนยืนยันเลยว่าผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดเราทราบตัวหมดแล้ว และฝากส่งสัญญาณไปเลยว่า บุคคลที่เหิมเกริมไม่เกรงกลบัวกฎหมายท่าทายอำนาจรัฐ ตนคิดว่าเราต้องบังคับใช้กฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ วันนี้ท่าน ผบ.ตร.ได้สั่งมาชัดเจนว่า ให้เปิดยุทธการในทุกพื้นที่ของภาค 1 และในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่แรงมากในครั้งนี้ ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราต้องคิดว่า เราป่วยพ่อแม่เราป่วยเราจะไปไหนเราก็ต้องไปโรงพยาบาลราก็ต้องอาศัยคุณหมอทุกคน เราทำอย่างนี้แล้วทำให้สังคมรับไม่ได้ ส่วนในเรื่องต้นต่อเรื่องยาเสพติด ตอนนี้เรามีข้อมูลอยู่แล้ว และกำลังวางแผนว่าเราจะทำอะไรก่อน แต่เราอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ไม่ใช้ที่มหาวงค์ที่เดียวทั้งหมดในพื้นที่ ทั้งหมดเรามีข้อมูลและแผนยุทธกรรมทั้งหมดเรามีหมดแล้ว
