ฉะเชิงเทรา – หนูน้อยกระดูกเหล็ก ตกจากขบวนรถไฟ กรุงเทพฯ-ปราจีนบุรี ยังไม่ได้กลับบ้าน หลังแพทย์ให้นอนรอดูอาการ ขณะหนูน้อยเริ่มมีอาการลุกนั่งไม่ได้ เผยรอแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกเข้าดูอาการพรุ่งนี้ ขณะญาติระบุสาเหตุเกิดจากความไร้เดียงสา หลังเด็กได้ยินเสียงญาติที่นั่งมาด้วยบอกถึงแล้วหนูน้อยได้รีบกุลีกุจอคว้ารองเท้าสวมใส่ก่อนวิ่งไปรอยังหน้าประตูและพลัดตกจากขบวนหายไป
วันที่ 15 ต.ค.61 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางฟูรอ บุญมาเลิศ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 ม.5 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา มารดาของ ด.ช.ทินภัทร รอดเจริญ (สวาล) อายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากขบวนรถไฟ ชั้น 3 เที่ยวธรรมดาที่ 371 ต้นทางจากสถานีกรุงเทพฯ ปลายทางสถานีปราจีนบุรี เมื่อเวลา 19.40 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ต.ค.61)
ก่อนจะมีการระดมเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยฯและทหาร ออกติดตามค้นหาจนพบว่าเด็กตกจากขบวนรถไฟขบวนดังกล่าว ที่บริเวณก่อนถึงสถานีรถไฟโพรงอากาศ ประมาณ 300 เมตรนั้นว่า ในวันนี้ทางแพทย์ รพ.บางน้ำเปรี้ยว ยังไม่อนุญาตให้น้องสวาลกลับบ้าน เนื่องจากยังต้องรอให้แพทย์ศัลยกรรมกระดูกเข้ามาดูอาการในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
เนื่องจากขณะนี้ตัวน้องบอกว่าเจ็บหลังในขณะที่ลุกขึ้นนั่ง และปวดที่ด้านบนศีรษะ แต่ยังสามารถนอนเล่นได้ โดยที่อาการทั่วไปภายนอกนั้นปกติดีไม่พบว่ามีบาดแผลอะไรมีเพียงร่องรอยยุงกัดที่บริเวณข้อเท้าด้านซ้าย และยังสามารถพูดคุยเล่นซนได้ตามปกติ
โดยเมื่อวานนี้ตนเองพร้อมครอบครัวประกอบด้วยบุตรชายวัย 9 ขวบ 1 คน 7 ขวบ 1 คน และ 3 ขวบ 1 คน และพี่สาวน้องสาวและน้องชายรวม 8 คน ได้เดินทางไปเดินเที่ยวยังที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ (เดอะมอลล์) ก่อนที่จะพากันขึ้นขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปราจีนบุรี ขบวนนี้เมื่อเวลา 18.13 น. เพื่อที่จะเดินทางไปลงยังที่สถานีรถไฟบ้านคลอง 19 ซึ่งอยู่ใกล้บ้านพัก
แต่เมื่อขบวนรถออกจากสถานีชุมทางรถไฟฉะเชิงเทราและใกล้จะถึงสถานีรถไฟโพรงอากาศซึ่งเป็นสถานีที่เป็นลักษณะป้ายหยุดรถชั่วคราว น้องสาวของตนได้พูดเอ่ยขึ้นว่าถึงแล้ว ทำให้บุตรชายของตนเองที่กำลังอยู่ในวัยซนและวิ่งเล่นอยู่บนขบวนรถรีบมาคว้ารองเท้าไปสวมใส่ก่อนที่จะวิ่งไปยืนรอที่บริเวณประตูทางลงจากนั้นได้หายตัวไป
ครั้งแรกตนเองนั้นเข้าใจว่าลูกยังวิ่งเล่นซนเหมือนเดิม จนตนเองนั้นเห็นบุตรชายหายไปนานจึงได้เดินไปดูที่ประตูทางลงรถไฟแต่ไม่พบตัว ในขณะที่ขบวนรถได้เคลื่อนตัวออกจากป้ายหยุดรถโพรงอากาศแล้ว จึงได้รีบวิ่งร้องขอความช่วยเหลือจากโบกี้หน้าสุดติดกับหัวรถจักรไปยังโบกี้ท้ายสุดที่มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟประจำอยู่เพื่อแจ้งเหตุให้ทราบ
แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะหยุดขบวนรถได้แล้ว จึงได้มาลงจากขบวนรถยังที่สถานีบางน้ำเปรี้ยวและแจ้งให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ช่วยกันออกติดตามค้นหา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถรางล้อเลื่อนของหน่วยซ่อมบำรุงทางขับวิ่งย้อนกลับค้นหามาตามรางรถไฟ และมีการระดมเจ้าหน้าที่ทหาร ตลอดจนอาสากู้ภัยฉะเชิงเทราเข้ามาช่วยกันค้นหา
จนมาพบบุตรชายของตนนอนอยู่ในพงหญ้าริมทางรถไฟ ก่อนที่จะถึงสถานีรถไฟโพรงอากาศประมาณ 300 เมตร ซึ่งมีสภาพเป็นทุ่งนาล้อมรอบและอยู่ในลักษณะอ่อนเพลีย ตามร่างกายไม่มีบาดแผลแต่มีรอยยุงกัดหลายจุด หลังจากได้พบบุตรชายอีกครั้งรู้สึกดีใจขึ้นเป็นอย่างมาก ที่สามารถติดตามค้นหาตัวจนพบ และยังปลอดภัยดีอีกด้วย
หลังจากในครั้งแรกที่ทราบว่าบุตรชายหายตัวไปนั้นรู้สึกตกใจมาก จึงอยากฝากบอกผู้คนทั่วไปที่พาเด็กขึ้นรถไฟว่าให้พยายามระมัดระวังและดูแลบุตรหลานให้ดี และอาจไม่โชคดีที่รอดชีวิตเหมือนบุตรชายของตนก็เป็นได้ เนื่องจากขบวนรถไฟเที่ยวธรรมดาไม่มีประตูปิดกั้นทางขึ้นลง นางฟูรอ กล่าว
ขณะที่ นางสุกัญญา บุญมาเลิศ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/8 ม.5 ต.โยธะกา ผู้เป็นป้าของเด็กชายวัย 3 ขวบ ซึ่งได้ร่วมเดินทางนั่งมาในขบวนรถเดียวกันด้วย กล่าวว่า เด็กชายสวาล กำลังอยู่ในวัยซน เขาอยู่นิ่งเฉยไม่ได้และวิ่งเล่นในขบวนรถไปมาตลอดทาง
พอได้ยินน้องสาวของตนบอกว่าถึงแล้ว ด้วยความไร้เดียงสาของเด็กจึงได้รีบวิ่งมาคว้าลองเท้าสวมใส่และไปยืนที่ประตูทางลงทันที โดยขณะเกิดเหตุอาจเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ขบวนรถกำลังเบรกและตัวรถกระตุกเพื่อชะลอความเร็วหยุดขบวนรถที่สถานีโพรงอากาศพอดี จึงทำให้ตัวเด็กกลิ้งตกลงไปจากขบวนรถ และไม่เป็นอะไรมากนั้นเนื่องจากตัวรถใกล้จะหยุดถึงสถานีแล้ว จึงมีความเร็วไม่มากนัก นางสุกัญญา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: