นครพนม – เวลา 12.50 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2563 พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราช สารวัตร (สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งถูกยิงเสียชีวิต และมีตำรวจถูกฟันได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณถนนคอนกรีตสาธารณะหมู่ 1 ต.บ้านค้อ จึงรายงาน พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.ฯ พ.ต.ท.ร่มชัย ร่มธรรมชัย รอง ผกก.สส. พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.โพนสวรรค์ อัยการจังหวัดฯ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.นครพนม และกู้ภัยศรีสัตตนครพนม
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างถนนทางหลวงชนบท นพ.4029 สายโพนจาน-บ้านค้อ เยื้องกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านค้อ 100 เมตร หน้าบ้านเลขที่ 274 หมู่ 1 ซึ่งเป็นบ้านของนางทองคำ เคนโสม อายุ 56 ปี พบ จยย.ยี่ห้อฮอนฟ้า เวฟ 100 สีดำคาดแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของนายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ล้มคว่ำ ใกล้กันพบหยดเลือดกลางถนนเกรอะกรัง
ส่วนคนเจ็บทราบชื่อ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รอง สว.สืบสวน สภ.โพนสวรรค์ หน.ที่พักสายตรวจ ต.บ้านค้อ ถูกฟันด้วยอาวุธมีดเข้าที่ศีรษะ 2 แผล ที่ต้นแขนซ้าย 2 แห่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.โพนสวรรค์ ก่อนถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.นครพนม ในเวลาต่อมา พบว่ากะโหลกศีรษะร้าว
ในที่เกิดเหตุพบไม้ง่ามเหล็ก 2 อัน ยาว 2 เมตร มี 1 อันง่ามหักตกอยู่ ถัดไปราว 10 เมตรหน้าบ้านเลขที่ 343 ของนางมณฑิรา จำปา อายุ 47 ปี พบศพนายลำเพย ผู้ก่อเหตุ สภาพศพนอนหงาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบที่ฝ่าเท้า 1 นัด หน้าแข็ง 1 นัดและลำตัว 1 นัด รวม 3 นัด นอนจมกองเลือด พบปลอกกระสุน 4 ปลอกตกอยู่ และอาวุธมีดพร้าปลายแหลมยาว 40 ซ.ม.เปื้อนเลือด ซึ่งเป็นของนายลำเพย ผู้ตาย ตกอยู่ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนางทองคำ พี่สาวผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายลำเพยน้องชาย ได้ขับรถ จยย.คันดังกล่าวมาที่บ้าน เพื่อมาขอเงิน 100 บาท ไปซื้อยาบ้าเสพ แต่ในบ้านมีเพียงนายจุฬา จำปา อายุ 60 ปี และหลานสาวชั้น ม.5 อยู่บ้าน เมื่อนายลำเพยไม่พบตน จึงคลุ้มคลั่งอาละวาดจะพังบ้าน หลานสาวจึงโทรศัพท์บอกตน ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางกลับจาก จ.สกลนคร จึงโทร.แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้นายลำเผยผู้ตายและน้องชาย เคยมาอาละวาดและขู่ขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพแล้ว 4-5 ครั้ง เมื่อไม่ให้เงินก็จะอาละวาดพังบ้าน จนเป็นรูโบ๋ซ่อมแซมมาหลายครั้ง
หลานสาวชั้น ม.5 ที่เหตุเหตุการณ์ เล่าว่า หลังนางทองคำ ผู้เป็นยายโทรแจ้ง ร.ต.ท.วิจิตร คนเจ็บ ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ซึ่งอยู่ที่พักสายตรวจห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร หลังจอดรถ ร.ต.ท.ได้นำไม้ง่ามเหล็กที่อยู่ท้ายรถ มาผลักรถ จยย.ของนายลำเผยผู้ตายล้มคว่ำ ก่อนเกิดการปลุกปล้ำ จน ร.ต.ท.วิจิตรเสียหลักล้ม นายลำเผยจึงใช้อาวุธมีดปลายแหลม ฟันเข้ากลางศีรษะ 2 ครั้ง และที่ข้อมือซ้าย 2 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังนายลำเผยฟัน ร.ต.ท.วิจิตรแล้ว ได้วิ่งหนี ผู้หมวดวิจิตรจึงใช้อาวุธปืนยิงที่ขา ผู้ตาย 2 ข้างจนล้มลงและตามร่างกาย ล้มจมกองเลือด ต่อมาได้มี ด.ต.สมสุพร ตรีเดช ผบ.หมู่ งาน ป.สภ.โพนสวรรค์ ได้ยินวิทยุขอความช่วยเหลือ จึงแจ้งกู้ภัยศรีสัตตนครพนม นำร่างที่เลือดโชกของ ร.ต.ท.วิจิตร จนแทบหมดสติ ส่งตัวรักษาในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.กวีศักดิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งเมายาเสพติดอาละวาด ซึ่ง ร.ต.ท.วิจิตร คนเจ็บได้นำไม้ง่ามไประงับเหตุตามยุทธวิธี แต่เสียหลักถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดฟันจนบาดเจ็บสาหัส หลังคนร้ายก่อเหตุจะวิ่งหนี ร.ต.ท.วิจิตรจึงใช้อาวุธปืนยิงที่เท้าผู้ตายเพื่อป้องกันตัวและหลบหนี
พ.ต.อ.กวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากคำบอกเล่าของ ร.ต.ท.วิจิตร คนเจ็บ เบื้องต้นให้การว่าหลังใช้ปืนยิงเท้าเพื่อป้องกันตัว นายลำเผย ผู้ตาย ได้เยื้อแย่งอาวุธปืน กระสุนอีกนัดจึงเจาะเข้าที่หน้าอกนายลำเผย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเจาะเลือดนายลำเผยผู้ก่อเหตุ ตรวจพิสูจน์ว่ามีสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วยหรือไม่
สำหรับ ร.ต.ท.วิจิตร เป็นชาว อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ติดยศ ร.ต.ต.เลื่อนไหล ปี 53 เมื่อปี 2559 โดยในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ จะติดยศ ร.ต.อ. ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.ปีหน้า ก่อนถูกคนร้ายฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส
