X

ตรัง สามีเมาซ้อมภรรยาดับอ้างเป็นลมตายเอง


ตรัง – สามีเมาหนัก ซ้อมทำร้ายร่างกายภรรยาเสียชีวิต สภาพใบหน้าบวมช้ำ กรามซ้ายยุบ สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ด้านสามีหลังเกิดเหตุพยายามตั้งหลักโทรแจ้งตำรวจล่าช้า อ้างภรรยาเป็นลมตายเอง โดยน้องสาวเป็นคนลากตัวภรรยาเข้ามานอนในบ้าน ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับคำให้การของคนในครอบครัวที่ยืนยันว่า ฝ่ายสามีเกิดปากเสียงทะเลาะกันรุนแรงกับภรรยา ก่อนภรรยาจะเสียชีวิต และฝ่ายสามีเป็นคนอุ้มร่างภรรยาเข้าไปนอนในบ้านเอง

เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของคืนวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งมีคนเป็นลมเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 156 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าผู้เสียชีวิตทราบชื่อนางกัณยาณี ทองสุข อายุ 38 ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน โดยมีนายอุทัย ทองสุข อายุ 42 ปี สามีนั่งกอดร่างภรรยาในสภาพเมาเหล้า กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง พร้อมกับบอกว่าภรรยาเป็นลมเสียชีวิต แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้ตายอยู่ในสภาพใบหน้าบวมปูด และเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา และแพทย์เวร รพ.รัษฎา รีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผู้กำกับการ สภ.รัษฎา จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น พบผู้ตายในสภาพใบหน้ามีแผลฟอกช้ำไปทั่ว ทั้งเปลือกตา 2 ข้าง ใบหน้า แก้ม โดยบวมปูดทั่วใบหน้า กรามซ้ายยุบ มีเลือดออกทางปากและจมูก เชื่อว่าสมองจะต้องได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่จากการสอบถามนายอุทัย สามีผู้ตาย ยังยืนยันเสียงแข็งในสภาพเมาเหมือนเดิมว่า ภรรยาตนเองเป็นลมเสียชีวิตเองที่หน้าบ้าน ทั้งนี้ แต่ละครั้งให้การไม่เหมือนกัน โดยครั้งแรกระบุว่า ตนเองกลับจากทำงานก่อสร้างฉาบผิวบ้านของชาวบ้านรายหนึ่งตั้งแต่เช้า โดยกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 19.30 น. ซึ่งก่อนกลับบ้านก็ได้กินเหล้ามาจากที่ทำงานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านยังได้คุยกับภรรยาตามปกติ แต่พอตนเองเดินไปบ้านแม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พบว่าภรรยามีอาการชัก เป็นลมอยู่ในสวนกล้วยข้างบ้าน แต่พอตำรวจถามซ้ำๆ กลับให้การไม่ตรงกัน โดยบอกว่าตนเองกลับมาจากทำงานในเวลาประมาณ 20.00 น.มาถึงพบว่าภรรยาเป็นลมหมดสติแล้ว โดยมาถึงพบว่าน้องสาวได้อุ้มภรรยามาวางไว้ในบ้านแล้ว ตนเองไม่เห็นขณะที่ภรรยาเป็นลม แต่ยืนยันภรรยาไม่เคยมีโรคประจำตัว และยืนกรานภรรยาเสียชีวิตเพราะเป็นลม ส่วนที่ตนเองแจ้งตำรวจช้า เพราะไม่คิดว่าภรรยาจะเสียชีวิต และไม่อยากให้ภรรยาเสียชีวิต


อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามนางรำพึง ม่วงทำ อายุ 37 ปี น้องสาวนายอุทัย ให้การว่า ปกติพี่ชายชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ และพี่ชายจะมีปัญหาทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกับพี่สะใภ้ทุกวัน ตนเองมีบ้านลึกเข้าไปในข้างใน ในค่ำวันนี้ เมื่อพี่ชายกลับจากทำงานมาถึงก็ได้ยินเสียงทะเลาะกับพี่สะใภ้อีกครั้ง เมื่อตนเองวิ่งมาดูก็พบว่าพี่ชายกำลังอุ้มร่างพี่สะใภ้อยู่หน้าบ้าน ตนเองจึงบอกให้พี่ชายอุ้มพี่สะใภ้เข้าไปในบ้าน แต่สุดท้ายพี่สะใภ้ก็เสียชีวิต

ทางด้านนายชูไชย ทองสุข อายุ 64 ปี พ่อของนายอุทัย ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน กล่าวว่า เดิมลูกชายและลูกสะใภ้ทำงานก่อสร้างถนน งานชลประทาน พื้นที่ จ.พัทลุง แต่ทั้งคู่กลับมาอยู่ที่ จ.ตรัง ได้ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ในช่วงโรคโควิดระบาด โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิงอายุ 7 ขวบ ส่วนคนเล็กเป็นผู้ชาย อายุ 4 ขวบ ขณะเกิดเหตุก็อยู่กับพ่อกับแม่ ปกติลูกชายชอบดื่มเหล้า และมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับลูกสะใภ้บ่อยครั้ง จนทนเองไม่อยากฟัง และไม่อยากรำคาญ ก็จะไม่สนใจฟัง ปิดประตูเข้าไปนอนอยู่ในบ้าน ในวันนี้ก็เช่นกัน ลูกชายกลับมาก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีก ซึ่งปกติแม้ไม่ดื่มเหล้า ไม่ได้ทะเลาะกัน ทั้งคู่ก็ชอบพูดจาเสียงดังใส่กันเป็นประจำ วันนี้ตนเองไม่ได้สนใจ แต่พอรู้ว่าลูกสะใภ้เสียชีวิตก็ออกมาดูเท่านั้น แต่ลูกชายบอกว่าลูกสะใภ้เป็นลมเสียชีวิตเอง

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อเกิดจากการกระทำของสามี จึงควบคุมตัวสามี ไปสอบปากคำ รวมทั้งคนในครอบครัวด้วย ขณะเดียวกันจะต้องนำศพผู้ตายไปตรวจพิสูจน์และเอ็กซเรย์อย่างละเอียดที่ รพ.รัษฎา อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน