เพชรบูรณ์-“อภิสิทธิ์”ไม่หวั่นถูกจับตา ยันการลงพื้นที่เป็นขบวนการเลือก หน.พรรค ทำหนังสือแจ้ง กกต.แล้ว ชวนพรรคอื่นทำแบบเดียวกันจะได้ปฏิรูปการเมือง มั่นใจไม่เกิดความขัดแย้งในพรรค
วันที่ 16 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเป็นหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์(ปชป.) เบอร์ 1 ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่จ.เพชรบูรณ์หาเสียง เพื่อชิงเก้าอี้ หน.พรรค ปชป.สมัยที่ 2 ถึงกรณี รมว.มท.สั่งจับตาในการลงพื้นที่ของพรรคการเมืองและอดีตส.ส.ว่า ทุกคนก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เราได้ทำหนังสือไปแล้วว่าเรา เข้าสู่กระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตามกฎหมายให้แจ้งกกต.เราก็แจ้งไปแล้ว นักกฎหมายก็บอกว่าแจ้งแล้วถือว่าคสช.อนุญาต ทั้งหมดเป็นกระบวนการของการเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ต้องกังวลครับ
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่คิด ถึงเรื่องการทำผิดกฎหมาย พรรคเราก็ลงพื้นที่แบบนี้แหละครับไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องความมั่นคงแต่อย่างใด หรือกับใครทั้งสิ้น และการเมืองก็เป็นเรื่องนโยบาย และเมื่อวานนี้ รมต.ไปลงพื้นที่ 3 ท่านไม่ใช่เรื่องนโยบายเหรอครับ ก็เป็นเรื่องนโยบายทั้งนั้นเรื่องการเมือง ของผมเป็นกระบวนการที่ทำตามกฎหมายอยู่เวลานี้คือ กำลังจะเลือกหัวหน้าพรรค พรรคอื่นอยากเลือกแบบนี้บ้างเรายินดีเลยนะครับ จะได้ปฏิรูปการเมืองกัน
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงความมั่นใจในการชิงหน.พรรคปชป.ในครั้งนี้ว่า “ผมให้เกียรติทุกคนเวลาแข่งขัน และผมเดินหน้าอย่างเดียว เพื่อจะบอกสมาชิกว่า ผมต้องการนำพาพรรค ไปเป็นทางหลักของประเทศ และต้องขอการสนับสนุน ที่ผ่านมาก็จะเห็นผมไปทุกที่แล้วก็ มีการตอบรับที่ดี จำนวนคนที่มามีโอกาสได้ฟังผมก็มากพอสมควร”
นายอภิสิทธิ์ยังตอบคำถามถึง การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคฯอาจทำให้เกิดเสียงแตกจนเกิดความขัดแย้งภานในพรรค แชป.ขึ้นด้วยว่า เราอยู่ในระบบประชาธิปไตยการแข่งขันแพ้ชนะ เป็นเรื่องปกติธรรมดา ก็อยู่ที่แต่ละคนล่ะครับ ผมก็เคยแพ้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคมาแล้ว คุณชวนก็เคยแพ้การเลือกตั้ง หัวหน้าพรรคมาแล้ว เราได้พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามต่อว่า ระดับแกนนำอาจจะไม่มีปัญหาแต่ สมาชิกพรรคหรือลูกพรรค อาจจะคิดตรงกันข้าม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ทุกคนต้องยึดประโยชน์ขององค์กร ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก” เมื่อถามย้ำว่าเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “เดี๋ยวก็พิสูจน์เอง ส่วนใครไม่เข้าใจก็ แสดงว่าไม่ได้รักพรรคจริง ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะเราต้องอยู่กับคนที่พร้อมจะร่วมอุดมการณ์และสร้างองค์กรขึ้นมา”
