ศรีสะเกษ ตีระฆังชัยใหญ่ที่สุดในโลกเปิดหมู่บ้านไพรพัฒนารับนักท่องเที่ยว เชิญกราบสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยและลอดใต้โลงศพหลวงปู่สรวงเพื่อขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งชวนชิมอาหารพื้นถิ่นเขมรโบราณสุดอร่อย
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายอรรคพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Villge) บ้านไพรพัฒนา หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 10 ต.ไพรพัฒนา ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.ภูสิงห์ ร่วมกับ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวบ้านไพรพัฒนา ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น
โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย การแสดงศิลปะพื้นบ้าน การแสดงรำบายศรีสู่ขวัญ พิธีบายศรีสู่ขวัญ การจัดนิทรรศการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Villge) การไหว้พระขอพรและกราบสรีระวังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบซึ่งชาวไทยและชาวกัมพูชาตามแนวชายแดนเคารพศรัทธาเปรียบเสมือนเทพเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล การชิมอาหารพื้นถิ่น ประกอบด้วย ข้าวต้มเขมร แกงขี้เหล็ก แกงหัวปลี หมกหน่อไม้ ป่นปลา ที่รสชาติอร่อยมาก การจำหน่ายสินค้าโอท๊อปจำนวนมาก
นายอำเภอภูสิงห์ ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยกันยกเอาท่อนไม้ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 2 เมตร ตีระฆังชัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3 ครั้ง เพื่อเป็นการเปิดงาน โดยมี นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา ผู้กล่าวรายงาน และมี นายวรการ น้อยสงวน ผอ.ร.ร.บ้านไพรพัฒนา พร้อมด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวง ผู้นำชุมชน และชาวบ้านไพรพัฒนาซึ่งทุกคนพากันแต่งกายด้วยชุดเขมรโบราณมาร่วมพิธีและให้การต้อนรับกันเป็นจำนวนมาก
นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า อ.ภูสิงห์ ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Villge) บนเส้นทางตามเขตการพัฒนาการท่องเที่ยว 8 เส้นทาง 31 จังหวัด 125 หมู่บ้านทั่วประเทศ จำนวน 1 หมู่บ้านคือบ้านไพรพัฒนาอยู่ในโซนเส้นทางท่องเที่ยว “ปราสาทหินเที่ยวถิ่นอารยธรรมอีสานใต้” ประกอบด้วย จ.ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และนครราชสีมา เพื่อดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาย ที่มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
อ.ภูสิงห์ ได้ใช้ภูมิปัญญา ใช้อัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าผ่านการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้การบูรณาการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน กล่าวคือใช้หลัก บวร บวกหนึ่ง (บ้าน วัด โรงเรียนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ตลอดจนหน่วยงาน กลุ่มองค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับด้านการท่องเที่ยว มาร่วมกันขับเคลื่อนภายใต้นโยบายสานพลังประชารัฐ เพื่อเปิดหมู่บ้านไพรพัฒนา เพื่อการท่องเที่ยวในครั้งนี้
นายอรรคพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า อ.ภูสิงห์ เป็นอำเภอทีมีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ การท่องเที่ยงโดยชุมชน เช่น มณฑปปราสาทที่ตั้งสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ผาพญากูปรี เขื่อนห้วยติ๊กชู เขื่อนห้วยศาลา น้ำตกห้วยสวาย น้ำตกนาตราว ตลาดบายตึ๊กเจีย จุดผ่านถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ เป็นต้น
การเปิดหมู่บ้านไพรพัฒนาเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวครั้งนี้ จะเป็นสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงเสน่ห์ชุมชน ทั้งสถานที่ แหล่งท่องเที่ยว สินค้าและบริการได้เป็นอย่างดี
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมวัดไพรพัฒนา เพราะที่นี่เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของการท่องเที่ยว ระหว่างสองประเทศคือประเทศไทยและประเทศกัมพูชา การเปิดด่านช่องสะงำตั้งแต่ปี 2545 ถือว่าได้รับอานิสงส์จากวัดไพรพัฒนาของหลวงปู่สรวงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงในการจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์สองประเทศโดยใช้มิติทางศาสนาดึงดูดให้พุทธศาสนิกชนเดินทางมาทำบุญที่วัดตลอดเวลาทั้งช่วงเทศกาลและช่วงปกติ
เป็นศูนย์รวมทางใจของพุทธศาสนิกชน ส่งผลให้มีการเดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะทางวัดมีรถนำเที่ยวอำนวยความสะดวกฟรี ทำให้สามารถเชื่อมโยงความศรัทธาสู่การท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้จังหวัดศรีสะเกษจำนวนมาก สินค้าโอท๊อปของ อ.ภูสิงห์ ที่ได้นำไปจำหน่ายที่เมืองทองธานีก็ได้รับความสนใจและขายดีเป็นอย่างมาก สร้างรายได้ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวให้กับชาว อ.ภูสิงห์ และ ชาว จ.ศรีสะเกษ ได้เป็นอย่างดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: