นครพนม – เมียเหยื่อตีนโหด ท้าเจาะเลือดตำรวจ สภ.หนองบ่อ ไม่ยอมเผาศพจนกว่าได้ความเป็นธรรม พยานเผยร้องให้ช่วยจนหมดแรง ปล่อยนอนจนตายอยู่หน้าโรงพัก
กรณี นายวิทยา โสภาวงศ์ อายุ 40 ปี ทำงานเป็นพนักงานขับรถองค์การบริหารส่วนตำบลก้านเหลือง (อบต.ฯ) อยู่บ้านเลขที่ 275 หมู่ 9 บ้านจำปา ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม ถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองบ่อ อ.นาแก บุกเข้าจู่โจมจับกุมในบ้านเลขที่ 245 หมู่ 9 บ้านจำปา ขณะนั่งล้อมวงดื่มสุรากับกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ทำให้ตกใจต่างวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง สุดท้ายก็ถูกตำรวจไล่ตะครุบจับตัวมาได้ ปรากฏว่านายวิทยาเกิดอาการเหนื่อยหอบแน่นหน้าอก ร้องขอให้ตำรวจช่วยนำส่งโรงพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สนใจ จึงเกิดอาการช็อกหมดสติจึงกระตือรือร้นนำส่งโรงพยาบาลอำเภอนาแก สุดท้ายแพทย์แจ้งกับญาติๆว่านายวิทยาเสียชีวิตก่อนถึงมือหมอแล้ว ด้วยความคลางแคลงใจเพราะตามร่างกายของนายวิทยามีร่องรอยเขียวช้ำหลายแห่ง จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตาย โดยเบื้องต้นมีเลือดตกในช่องท้อง ตับไตด้านขวาฉีกจากการถูกกระแทกด้วยของแข็ง ญาติเชื่อว่านายวิทยาถูกกระทืบจนตับแตกตาย จึงรวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาตำรวจชุดจับกุม ด้วยการแห่ศพประท้วงไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และเพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม มีคำสั่งย้ายตำรวจสืบสวน สภ.หนองบ่อ จำนวน 8 นาย ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้ไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ขาดจากตำแหน่งและสังกัดเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 5 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายวรเทพ แขมคำ อายุ 43 ปี มีศักดิ์เป็นน้องเขยของผู้ตาย ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าจากคำกล่าวอ้างของตำรวจชุดจับกุม ระบุสายลับรายงานว่ามีการมั่วสุมเสพยาเสพติดในบ้านของนายวิทยาจึงเข้าจู่โจมจับกุม และได้ของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 10 เม็ด ตนไม่ทราบว่ายาบ้านั้นเป็นของใคร แต่ยืนยันความบริสุทธิ์ของพี่เมียได้ว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิดพร้อมเสมอถ้าจะเจาะเลือดหาสารเสพติดในร่างกายของคนตาย และถ้าจะให้ชัวร์ควรเอาตำรวจ สภ.หนองบ่อ เจาะเลือดด้วยก็เป็นการดี
ด้าน นางสาวกนกพร พงศ์พันธ์ อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่ามีพยานเล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุ (28 กค.) สามีได้เจอกลุ่มวัยรุ่นนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ในบ้านเลขที่ 245 หมู่ 9 บ้านจำปา ซึ่งอยู่ห่างจากของตนเองประมาณ 30 เมตร โดยร่วมซดเบียร์กระป๋องได้เพียง 2-3 อึก ก็มีตำรวจจู่โจมเข้ามาตนเชื่อว่าสามีไม่รู้ว่าเป็นใคร จึงตกใจวิ่งกระโดดบันไดบ้านที่สูงเพียง 1 เมตรเศษ หนีเข้าไปในป่า สักพักตำรวจ 4 นาย ก็หามร่างสามีออกมาในสภาพเดินด้วยตัวเองไม่ได้ อีกทั้งร้องขอให้ตำรวจช่วยนำส่งโรงพยาบาล แต่ตำรวจบอกไม่ได้ต้องไปโรงพักก่อน ระหว่างนั่งกระบะท้ายรถตำรวจไปโรงพัก พยานบอกว่านายวิทยาพยายามบอกให้ตำรวจพาส่งโรงพยาบาล และเสียงร้องขอเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ กระทั่งมาถึง สภ.หนองบ่อ ตำรวจนำตัววัยรุ่นเข้าห้องคุมขัง ส่วนนายวิทยาหามมาวางนอนไว้หน้าโรงพัก โดยไม่มีใครสนใจใยดี จนมีวัยรุ่นคนหนึ่งขับรถ จยย.ตามมาดู พบว่านายวิทยาหมดสติไปแล้ว ตำรวจจึงรีบหามตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตระหว่างทาง
น.ส.กนกพรกล่าวเพิ่มเติมว่า จะตั้งบำเพ็ญกุศลศพสามีไว้ในบ้านเลขที่ 275 หมู่ 9 บ้านจำปา จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ยืนยันไม่เคยมีประวัติส่วนเกี่ยวข้อง หรือพัวพันกับยาเสพติด ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ส่วนยาเสพติดจำนวน 10 เม็ด ที่ตำรวจตรวจพบกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกจับก็รับว่าเป็นของพวกเขา ถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่ได้ตั้งกล่าวหาอะไรกับสามี และมีความเห็นสอดคล้องกับนายวรเทพน้องเขยว่า ให้เจาะเลือดตำรวจ สภ.หนองบ่อ ด้วย
