อุบลราชธานี-พนักงานธนาคารกรุงไทยสาขาจังหวัดอุบลราชธานี ทำธุรกิจขาดทุนจากการระบาดของไวรัสโควิด 19 ตัดสินใจใช้เตาถ่านรมควันฆ่าตัวตายในรถ
เมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 6 ส.ค. ร.ต.อ.สุรชัย แก้วคำภา พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากยามรักษาการณ์ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตั้งอยู่เทศบาลเมืองศรีไค อ.วารินชำราบ พบรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออสสีขาวทะเบียน 8 กพ 7937 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนถนนข้างบ้านตัวอย่างประหยัดพลังงานภายในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีคนสลบอยู่ในรถจำนวน 2 คน จึงพร้อมหน่วยกู้ภัยของเทศบาลตำบลเมืองศรีไครีบรุดเข้าตรวจสอบ
พบภายในรถมีการปิดกระจกแน่นหนาจากด้านในทั้ง 4 บาน ต้องทุบกระจกด้านข้างเปิดประตูรถ โดยบริเวณที่นั่งด้านหน้าในตำแหน่งคนขับพบศพคนตายทราบชื่อว่า น.ส.ธาริณี วงศ์วรกุลกิจ อายุ 30 ปี เป็นพนักงานของธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) สาขาอุบลราชธานี เสียชีวิตลักษณะนั่งศรีษะและลำตัวเอนมาทางประตูรถ
ส่วนที่วางเท้าบริเวณด้านที่นั่งข้างคนขับ พบเตาถ่านขนาดใหญ่ที่ซื้อมาใช้งานใหม่ๆ วางอยู่บนถาดอลูมิเนียมที่นำมาวางรองรับความร้อน โดยในเตามีเศษถ่านไฟที่ไหม้แล้ว และยังไหม้ไม่หมดเหลืออยู่ในเตาจำนวนหนึ่ง และด้านข้างเตาพบซองยานอนหลับที่กินไปแล้วบางส่วนตกอยู่ 1 ซองด้วย
ส่วนที่นั่งเบาะด้านหลังรถคันเดียวกันพบร่างของนายฉัฏฐรัตนภัทร ศรีสุระ อายุ 31 ปี เป็นพนักงานของธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) สาขาเดียวกันนอนเสียชีวิตอยู่ จึงร่วมกับแพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบสภาพศพ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือมีร่องรอยของการต่อสู้ภายในรถ จึงส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งสองคนไปให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ผ่าพิสูจน์ลงความเห็นการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง พร้อมนำรถคันเกิดเหตุกลับไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพักอีกครั้ง
จากการสอบสวนคนงานของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่ไปพบรถคันดังกล่าวเมื่อตอนเช้าเล่าว่า เห็นรถคันเกิดเหตุมาจอดอยู่สุดถนนคอนกรีต ก่อนถึงป่าหญ้าคาที่ใช้เป็นทางเข้ามาเยี่ยมดูบ้านประหยัดพลังงานตัวอย่างที่ทางมหาวิทยาลัยสร้างให้คนทั่วไปเข้าชม เมื่อเดินไปดูเห็นมีคนนั่งอยู่ในรถ แต่เคาะกระจกไม่มีเสียงตอบรับจากคนทั้งสอง คาดน่าจะมีเหตุร้าย จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ส่วนรถคนนี้ น่าจะขับมาจอดตั้งแต่เย็นวาน เนื่องจากทุกวันพุธภายในมหาวิทยาลัยมีการจัดตลาดนัดขายสินค้าของนักศึกษาและของบุคคลภายนอก บริเวณลานหอพักนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบรถไปประมาณ 1 กิโลเมตร คนทั้งสองน่าจะขับรถคันดังกล่าวเข้ามาตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวาน แล้วจุดเตาไฟรมควันตัวเองภายในรถ
ด้านนายบุญล้ำ ศรีสุระ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นบิดาของนายฉัฏฐรัตนภัทร หรือพัตเตอร์ และเป็นเจ้าของเขียงขายเนื้อหมูในอำเภอนาจะหลวย จ.อุบลราชธานี เล่าถึงสาเหตุที่ลูกชายที่เป็นสาวประเภทสองตัดสินใจรมควันฆ่าตัวตาย พร้อมกับเพื่อนหญิงร่วมงาน เบื้องต้นไม่ใช่เรื่องชู้สาวแน่นอน เพราะมีจิตใจเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เด็ก
และที่ผ่านมาทราบเพียงว่าลูกชายกับเพื่อนคนนี้ ได้ร่วมหุ้นลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าทำธุรกิจอะไรกัน กระทั่งเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เมื่อสองสามเดือนก่อน ลูกชายได้โทรศัพท์มาขอยืมเงินไป 2 ครั้งเกือบ 2 แสนบาท โดยบอกว่าธุรกิจที่ทำอยู่ไม่ดี ต้องการเงินไปหมุนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ เพราะยังมีหนี้สินจากการทำธุรกิจอยู่อีกจำนวนมาก โดยเพื่อนผู้หญิงก็เอาโฉนดที่ดินของพี่สาวไปจำนองหาเงินมาหมุนช่วยกันด้วย
และสังเกตเห็นความผิดปกติในตัวลูกชายตั้งแต่นั้น เพราะปกติวันหยุดจะกลับมาบ้านที่อำเภอนาจะหลวย และจะเข้าครัวทำกับข้าวให้พ่อกิน แต่ระยะหลังไม่กลับบ้าน ก่อนเสียชีวิตโทรศัพท์มาบ่นว่าเหนื่อยและขอยืมเงินไปใช้จ่ายอีก 5,000 บาท จึงได้โอนให้ลูกชายไป และก็มาได้รับแจ้งว่าลูกชายกับเพื่อนได้ตัดสินใจรมควันฆ่าตัวในรถในวันนี้ ซึ่งครอบครัวไม่ได้ติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด
ขณะญาติของ น.ส.ธาริณี ระบุว่า เมื่อหลายเดือนก่อน ผู้ตายประสบอุบัติเหตุจนต้องผ่าสมอง และพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง จากปัญหารุมเร้าหลายเรื่องและผู้ตายทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน มีอะไรก็จะพูดคุยปรึกษากันตลอด ช่วงที่ น.ส.ธาริณี ไม่กลับบ้านก็โทรไปเพื่อถามหา แต่ปรากฏโทรศัพท์ของคนทั้งคู่ปิดเครื่องก็เชื่อว่านัดกันมาฆ่าตัวตายดังกล่าว
ด้านการผ่าพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบว่า เสียชีวิตมาแล้ว 8-16 ชั่วโมง ตามร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่มีร่องการถูกทำร้ายจากการต่อสู้ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการขาดอากาศหายใจ จึงได้เจาะเอาเลือดของผู้ตายทั้งสองคนส่งไปให้แล็ปตรวจหาความเข้มข้นของสารพิษก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ในเลือดหรือสารอื่นๆ ในร่างกายของผู้เสียชีวิต เพื่อลงความเห็นการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้งด้วย
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: