เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 63 จากเหตุเรือเฟอร์รี่ ราชา4 บรรทุกรถขนขยะ เกิดล่มบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 5 ไมล์ทะเล เมื่อเมื่อเวลา22.30น ของวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยภายในเรือมีเจ้าหน้าที่ประจำเรือ และผู้โดยสาร รวม 16 คน ภายหลังจากเรือล่ม ได้มีผู้รอดชีวิตลอยคออยู่กลางทะเล จำนวน 9 คน สูญหาย 7 คน ต่อมาวันที่ 2 ส.ค. พบผู้รอดชีวิต 2 ราย ลอยไปติดบริเวณเกาะแตน และพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ลอยไปติดเกาะมดแดง วันที่ 3 ส.ค. พบผู้เสียชีวิต 1 ราย ลอยไปติดเกาะมัดกง ทำให้ยังมีผู้สูญหาย 3 ราย ที่คาดว่าจะติดอยู่ในซากเรือเฟอร์รี่ลำที่ล่ม ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
กองทัพเรือ ได้ส่งเรือหลวงราวี 785 จากฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมหน่วยซีล10 นาย สนับสนุนการค้าหา ร่วมกับทีมอาสาสมัครกู้ภัยทางทะเล 26 นาย จากทีมกู้ภัยสุราษฎร์ธานี และทีมนักประดาน้ำจากเกาะเต่า นำทีมโดยนายอีวาน คาราดซิก (IVAN KARADZIC) ครูสอนดำน้ำชาวแคนนาดา ซึ่งเป็น 1ในทีมนักดำน้ำกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ 13 หมูป่า ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
ต่อมา วันที่ 6 ส.ค. เวลาประมาณ 12.00น. ทีมอาสาสมัครประดาน้ำกู้ภัยทางทะเล พบกับร่างของน.ส.นภัรดา จันหาญ ตำแหน่ง พนักงานขายของบนเรือ ติดอยู่ที่ห้องน้ำหญิง และเวลา 11.40 น. ของวันที่ 7 ส.ค. หน่วยซีล และทีมอาสาสมัครกู้ภัยทางน้ำ สามารถนำร่างของนางนภัรดา ออกมาจากตัวเรือเฟอร์รี่ได้สำเร็จ แต่ยังไม่พบผู้สูญหายอีก 2 ราย คือนายทิวากรณ วัชรฤทธิ์ (กลาสี) และนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (คนขับรถพ่วง 18 ล้อ)
โดยส่วนหนึ่งของภาพจากกล้องถ่ายใต้น้ำ ที่บันทึกภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายภายในเรือเฟอร์ราชา 4 ได้พบอุปสรรคในการค้นหาหลายอย่างทั้งสภาพที่มืดสนิท กระแสน้ำใต้ทะเลมีกำลังแรง และน้ำขุ่นมาก ที่นักประดาน้ำต้องใช้ทั้งฝีมือ และประสบการณ์ในการค้นหา ชุดแรกจะดำน้ำเข้าไปยังจุดที่หญิงสาวติดอยู่ภายในห้องน้ำ ชุดที่2 จะดำน้ำเข้าไปสำรวจที่ห้องน้ำชายที่พบว่ามี1ห้องถูกล็อกประตูไว้ ชุดที่3 จะดำน้ำเข้าไปสำรวจที่ห้องกัปตันเรืออีกครั้ง และชุดที่4 จะดำสำรวจบริเวณรอบ ๆ ตัวเรือเพื่อค้นหาผู้สูญหาย
