ฉะเชิงเทรา – ป้ายกันลื่น แห่งแรกของเมืองแปดริ้ว ถูกนำมาติดตั้งแล้วบนถนนสาย 304 ช่วงส่วนขยายใหม่ระยะ 5.5 กม. ระหว่างสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 ไปยังบ้านหัวสวน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา หลังเคยเกิดอุบัติเหตุซ้ำซากในขณะฝนตก จนทำให้ยานพาหนะของผู้ใช้เส้นทางผ่านต่างพากันลื่นหงายท้องกันระนาวจนนับไม่ถ้วนหลายร้อยรายตั้งแต่ต้นฤดูฝนที่ผ่านมา หลังมีการก่อสร้างส่วนขยายแล้วเสร็จได้ไม่ถึง 1 ปี
วันที่ 20 ส.ค.63 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่มีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่บริเวณริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ช่วงตอนสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 ไปยังบ้านหัวสวน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นถนนส่วนขยายเส้นทางใหม่ระยะ 5.5 กม. ว่าทางแขวงการทาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการนำแผ่นป้ายจราจร “ฝนตกถนนลื่น” ขนาดใหญ่มาทำการติดตั้งไว้คอยเตือนบอกผู้ใช้เส้นทางให้ใช้ความระมัดระวังแล้ว จำนวน 2 แผ่นป้าย
บริเวณช่วงทางโค้งก่อนถึงทางรถไฟต่างระดับหน้าวัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ ห่างกันเป็นระยะประมาณ 200 เมตร เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากถนนบริเวณดังกล่าว มักจะมีผู้ใช้เส้นทางผ่านมาประสบอุบัติเหตุ ตัวรถลื่นเสียหลักชนกันแบบต่อแถวหลายคัน และหงายท้องล้อชี้ฟ้ากันเป็นจำนวนมาก หลายครั้งอย่างต่อเนื่องในเวลาฝนตก นับจากช่วงต้นฤดูฝนเมื่อเดือน พ.ค.63 ที่ผ่านมา หลังจากถนนเพิ่งทำการก่อสร้างขยายเส้นทางใหม่จาก 4 ช่องจราจรเป็น 8 ช่องจราจร แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2562
แต่ได้เกิดความผิดปกติที่บริเวณถนนสายนี้ขึ้น หลังจากมีผู้ใช้เส้นทางมาประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้ทาง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยแขวงการทาง จ.ฉะเชิงเทรา ตลอดจนผู้รับเหมาทำการก่อสร้างเส้นทาง ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาไปด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ หลากหลายวิธี ทั้งการปรับแก้ผิวการจราจร การติดป้ายควบคุมและตรวจจับความเร็วรถ การทาสีบนพื้นถนนให้ใช้ความระมัดระวังเป็นสีแดงเป็นระยะ
การติดป้ายสัญญาณไฟกระพริบเตือน การติดป้ายสะท้อนแสงบอกแนวทางโค้งขนาดใหญ่ และการปิดทางเข้าออกระหว่างทางสายหลักและทางคู่ขนานในบางจุด และล่าสุดจึงได้มีการนำป้ายออกมาใหม่อีกหนึ่งชนิด คือ ป้ายเตือน “ฝนตกถนนลื่น” ที่เพิ่งถูกนำมาติดตั้งใหม่ล่าสุด จึงถือเป็นป้ายชนิดพิเศษกว่าในทุกๆ ป้ายเตือน ที่ไม่เคยถูกนำมาติดตั้งไว้ตามท้องถนนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มาก่อนเลยในทุกเส้นทาง จึงถือเป็นถนนสายแรกที่ป้ายเตือนชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในพื้นที่
แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านในพื้นที่ได้บอกแก่ทางผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่มีส่วนทำให้รถยนต์ของผู้ใช้เส้นทางมาประสบอุบัติเหตุในบริเวณนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้งนั้น น่าจะเกิดจากเส้นจราจรหรือแบ่งเลน และแบ่งขอบถนน ที่ไม่สะท้อนแสงเปล่งประกายเมื่อมีแสงไฟส่องมากระทบจนทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นเส้นทางในเวลากลางคืนที่ชัดเจน แม้จะมีไฟสีเหลืองส่องสว่างตามท้องถนนอยู่เป็นระยะก็ตาม
ทั้งที่ถนนสายนี้เพิ่งสร้างแล้วเสร็จใหม่ๆ แต่เส้นจราจรกลับทึบแสงและหม่นหมองในเวลาฝนตก ไม่มีเกล็ดเงาสะท้อนแสงเปล่งประกายให้ผู้ใช้เส้นทางมองเห็นแต่อย่างใด ในขณะที่พื้นถนนถูกออกแบบให้มีการเบี่ยงไปเบี่ยงมา โดยเฉพาะบริเวณใกล้จุดเชื่อมกับทางแยกและใกล้กับด่านชั่งน้ำหนักบางไผ่ ซึ่งช่องจราจรไม่ได้อยู่ในแนวตรง จึงควรมีการตีเส้นจราจรให้สะท้อนแสง เพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้เห็นอย่างชัดเจนด้วย
–เตือนอีกครั้ง จุดอันตรายบนถนนสาย 304 ทางราบที่สุดลื่นในเวลาฝนตก
–ระวังหงายท้อง ชาวแปดริ้วถ่ายคลิปเตือนคนต่างถิ่นที่สัญจรผ่านบนถนนอันตราย
–เตือนอีกครั้ง!!จุดอันตรายบนถนนสาย 304 ทางราบที่สุดลื่นในเวลาฝนตก
–ถนนปราบเซียน สาย 304 เตือนวันหยุดยาวขับระวัง ฝนตกถนนลื่น อุบัติเหตุถี่
