นครพนม – “โพนสวรรรค์บ่ทน” ฮือไล่นายอำเภอออกนอกพื้นที่ 24 ชั่วโมง เปิดประวัติเคยถูกขับมาแล้ว บี้คนสนิทสาวเผยบัญชีส่วนตัวหลังอวดรวย
วันที่ 21 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น. บริเวณหน้าทางขึ้นศาลากลางจังหวัดนครพนม ได้มีกลุ่มนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฯ(อบต.ฯ) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และสมาชิก อบต.ฯ(ส.อบต.ฯ) จาก 7 ตำบล 92 หมู่บ้านของอำเภอโพนสวรรค์ ประมาณ 200 คน นำโดยนายกิติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ ซึ่งเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอโพนสวรรค์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อขับไล่นายนพดล ศิริ นายอำเภอโพนสวรรค์ ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ ผวจ.ฯติดราชการอยู่กรุงเทพฯ จึงมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รอง ผวจ.นครพนม ลงมารับหนังสือดังกล่าวแทน
ในหนังสือระบุว่า “ตามที่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมนั้น และผู้ว่าราชการฯ ได้มอบหมายให้ปลัดจังหวัดนครพนม ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ปลัดจังหวัดฯได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอโพนสวรรค์และได้ให้กำนันทุกตำบลเข้าพบเพื่อไกล่เกลี่ย แต่กำนันไม่ยอมไกล่เกลี่ยเพราะการไปของปลัดจังหวัดนครพนมยังได้ไปพบกับเสมียนตราอำเภอ และขอให้เสมียนตราอำเภอทำหนังสือช่วย นายนพดล ศิริ เราจึงไม่ได้รับความเป็นธรรม พฤติกรรมชั่วของนายนพดล ศิริ มีดังนี้
1.ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านนำเงินกองทุนหมู่บ้านส่งให้นายอำเภอโพนสวรรค์ กองทุนละ 1,500 บาท 2.ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านส่วนราชการจัดตั้งกองผ้าป่าทุกหมู่บ้านทุกส่วนราชการเพื่อนำเงินส่งอำเภอ 3.เรี่ยไรทุกหลังคาเรือนในเขตอำเภอโพนสวรรค์ หลังคาละ 99 บาท 4.นำเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ (อุดหนุนศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอโพนสวรรค์ (ศป.ปศ.อ.โพนสวรรรค์) นำเอาไปใช้ส่วนตัว โดยการเบิกแล้วเอาเข้าบัญชีเลขาฯ(ตรวจสอบได้) เนื่องในสถานการณ์บ้านเมืองเกิดโรคระบาดโควิด 2019 ได้ทำความเดือดร้อนให้ราษฎรทั่วไป แต่นายนพดล ศิริ ยังสั่งให้เรี่ยไร ซึ่งทำความเดือดร้อนให้แก่ชาวอำเภอโพนสวรรค์ ดังนั้นชาวอำเภอโพนสวรรค์จึงขอให้ย้ายนายนพดล ศิริ ออกจากอำเภอโพนสวรรค์ภายใน 24 ชั่วโมง” หลังรับหนังสือดังกล่าวแล้ว นายรังสรรค์ฯ รอง ผวจ.นครพนม จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ข่าวน่าสนใจ:
นายสมพงษ์ มณีรัตน์ นายก อบต.โพนจาน เปิดเผยว่าทางจังหวัดมีงบประมาณสนับสนุนการปราบปรามยาเสพติด ให้ทั้ง 7 ตำบลๆ ละ 50,000 บาท จำนวน 350,000 บาท ก็ถูกนายนพดล ศิริ ให้นำมาส่งแล้วเอาเข้าบัญชีหน้าห้องสาวคนสนิททั้งหมด
นอกจากนี้นายทรงเกียรติ กวนศักดิ์ นายก อบต.นาใน ก็เผยว่าเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นายนพดล ศิริ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา 1 ชุด ด้านหน้าเป็นหลวงปู่ประไพ อัคคธัมโม เกจิฯชื่อดังที่ละสังขารไปแล้วเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ส่วนด้านหลังเป็นเสด็จพ่อ ร.5 โดยอ้างว่าจะนำเงินมาสร้างอนุสาวรีย์เสด็จพ่อ ร.5 ภายในบริเวณที่ว่าการอำเภอโพนสวรรค์ หลังจัดสร้างเสร็จก็นำเหรียญดังกล่าวกระจายให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน ไปจำหน่ายให้กับชาวบ้านทุกบ้านเลขที่ ในราคาเหรียญละ 99 บ้าน เช่นหมู่บ้านนี้มี 100 หลังคาเรือน ก็จะยัดเยียดมาให้เกือบ 200 เหรียญ พร้อมกำชับว่าต้องจำหน่ายให้หมด ถ้าเหลือพวกกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ต้องรับผิดชอบ เมื่อนำเงินมามอบก็จะมีหน้าห้องเลขาฯสาวคนสนิทนายอำเภอเป็นผู้รับโดยไม่มีใบเสร็จ แล้วนำเข้าบัญชีส่วนตัวของเลขาคนนั้น ซึ่งนายทรงเกียรติเผยต่อว่าเรื่องยัดเยียดจำหน่ายเหรียญยังไม่ทันจาง นายนพดล ศิริ ก็ให้จัดตั้งกองผ้าป่าหมู่บ้านละกองรวม 92 กอง(92 หมู่บ้าน) เมื่อได้เงินมาก็เอาเข้าบัญชีส่วนตัวเลขาคนเดิม พอให้มีการชี้แจงก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา บางครั้งออกแนวนักเลงกับผู้ทวงถามเรื่องเงิน
ด้านนายกิติศักดิ์ จำปา แกนนำได้เปิดเผยว่านายอำเภอคนนี้ไม่มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการโดยเฉพาะเรื่องเงิน โดยเฉพาะเรือไฟอำเภอโพนสวรรค์ถือว่าเป็นหนึ่งที่ครองแชมป์มาอย่างยาวนาน ซึ่งเกิดจากการสามัคคีของราษฎรทั้งอำเภอร่วมมือร่วมใจกัน นายอำเภอในแต่ละยุคล้วนให้การสนับสนุน ใกล้ถึงเทศกาลไหลเรือไฟก็จะขอความร่วมมือจากชาวบ้านที่มีไม้ไผ่ในแต่ละหมู่บ้านนำมาส่งให้ที่อำเภอ ก็จะมีการช่วยเหลือด้านค่าขนส่งตามแต่ระยะใกล้ไกล มาถึงยุคนี้นายอำเภอโล๊ะใหม่หมดให้ไปขอเอากับชาวบ้านโดยไม่มีค่าขนส่งใดๆ “ปีนี้ถ้ายังมีนายนพดลเป็นนายอำเภอ ทุกคนจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ทั้งสิ้น” นายกิติศักดิ์ กล่าว
สำหรับหน้าห้องสาวคนสนิทที่ถูกกล่าวหาว่านำเงินในบัญชีไปใช้ส่วนตัว เนื่องจากโชว์แหวนเพชรราคาแพง ตลอดจนซื้อเสื้อผ้าชุดละครึ่งหมื่น ทั้งที่มีเงินเดือนไม่มากมายนัก กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านจึงต้องการให้แสดงความบริสุทธิ์ ด้วยการเปิดเผยบัญชีรายรับรายจ่าย อีกทั้งมีข่าวลือว่าอาจจะมีเรื่องชู้สาวด้วย
นายนพดล ศิริ นายอำเภอโพนสวรรค์ เพิ่งมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 อดีตเป็นปลัดอำเภอนาแก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายทะเบียน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีกลุ่มพลังมวลชน ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอนาแก รวม 12 ตำบล กว่า 500 คน ชูป้ายประท้วงขับไล่ นายนพดล ศิริ ปลัดหัวหน้างานทะเบียนในขณะนั้น ให้ย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อลดความขัดแย้ง โดยกล่าวหาว่า นายนพดล ศิริ ได้มีการบิดเบือนข้อมูล เพื่อหวังสร้างความขัดแย้ง ดิสเครดิต นายอำเภอนาแก จากนั้นก็ถูกย้ายออกมาอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม ก่อนจะมีคำสั่งตั้งแต่เป็นนายอำเภอโพนสวรรค์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 โดยอ้างว่าเป็นคนสนิทของนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่ง ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่สองที่ถูกขับไล่ออกนอกพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: